สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

แสง (ไม่) ธรรมดา

แสง ธรรมดา มีชื่อจริงว่า แสงธรรมดา กิตติเสถียรพร เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ชาวจังหวัดสงขลา มีชื่อเสียงจากการนำเพลงเพื่อชีวิตไปประยุกต์กับคำร้องและสำเนียงภาษาปักษ์ใต้ มีชื่อเสียงจากเพลง "นายหัวครก"

แสง ธรรมดา เคยร่วมต่อสู้ทางการเมืองในเหตุการณ์ 6 ตุลา เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และ การขับไล่ทักษิณ ชินวัตร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของร้านอาหารและร้องดนตรีเพื่อชีวิต ชื่อร้าน "บ้านนายหัว" ที่จังหวัดสงขลา เป็นผู้ร่วมจัดตั้งเครือข่ายศิลปินพันธมิตรภาคใต้ ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 แสง ธรรมดา ได้นำบุตรสาว ชื่อ เด็กหญิงแสงระยา กิตติเสถียรพร ขึ้นร่วมร้องเพลงที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ชื่อเพลง "ดอกไม้" คำร้องโดยจิระนันท์ พิตรปรีชา ทำนองโดยวีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล และเพลง "คุณหนูกู้ชาติ" ดัดแปลงจากทำนองเพลงสากล ที่ดิอิมพอสซิเบิ้ล เคยนำมาร้อง

วันนี้ของศิลปินนักสู้'แสง ธรรมดา'

“วีรชนคนรักประชาธิปไตย คนตายคนใต้ทั้งเพ ทั้งเพพี่น้องคนใต้” ...นี่คือท่อนหนึ่งของเนื้อเพลง “วีรชนคนใต้” ที่เคยดังกึกก้องจากทิวป่าเทือกเขาบรรทัด เมื่อครั้งชายหนุ่มผมยาวนาม “แสง ธรรมดา” กับผองเพื่อนร่วมอุดมการณ์ "คนเดือนตุลา” บ่ายหน้าหนีกระสุนจากเมืองเข้าป่า ทว่าวันนี้บทเพลงหวนคืนวันของการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยกลับมากังวาลอีกครั้งจาก "ร้านก๋วยเตี๋ยว” เล็กๆ กลางเมืองหาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งพักพิงชีวิตของศิลปินเลือดสะตอ ผู้ขับร้องเพลง “นายหัวครก” จนดังกระฉ่อนไปทั่วบ้านทั่วเมืองเมื่อปี 2538 จนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้พลิกโฉมวงการ “เพลงเพื่อชีวิตภาคใต้” ด้วยหยิบถ้อยคำภาษา "ทองแดง” มาแต่งแต้มทำนองเพลงให้มีกลิ่นอายของวิถีคนแดนดินถิ่นด้ามขวานอย่างไพเราะและลงตัว

วันนี้ “แสง ธรรมดา” หรือ “แสงธรรมดา กิตติเสถียรพร” หนุ่มใหญ่วัยเกษียณ ศิลปินเพลงใต้หมายเลข 1 ซึ่งเริ่มผ่อนคันเร่งจากโลดโผนบนเวทีดนตรี ด้วยการกลับมาปักหลักที่หาดใหญ่ บ้านเกิดโดยเลือกใช้ชีวิตกับครอบครัวพร้อมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านน้ำชา ถนนคลองเรียน 2 ซอย 6  ริมถนนกาญจนวนิช ด้วยหวังให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมจอมยุทธ์ในแวดวง “ศิลปะ” ทั้งงานเพลงดนตรี รวมถึงวรรณกรรม และที่สำคัญที่แห่งนี้คือศูนย์กลางในการพบปะกับผองเพื่อนคน "เดือนตุลา”

ด้วยอุดมการณ์อย่างแรงกล้า กอปรกับการติดต่อผ่านเหล่าสหายที่ก้าวออกจากป่าพร้อมกันในยุคนโยบาย 66/23 ทำให้การกลับมาปักหลักที่บ้านเกิดด้วยการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรหมูตุ๋นเสิร์ฟพร้อมน้ำชารสชาติคนปักษ์ใต้ ทำให้ร้านเล็กๆ กลางเมืองเศรษฐกิจสำคัญชายแดนภาคใต้กลายเป็นชุมทางของผลผลิตของคนเดือนตุลา ต่างแวะเวียนมาแลกเปลี่ยนความเห็นของเรื่องราวเหตุบ้านการเมืองชนิดมิขาดสาย
“ผมได้สูตรก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นมาจึงคิดว่าหากจะกลับมาพำนักเป็นการถาวรที่บ้านเกิดก็คงมีสิ่งนี้แหละที่พอจะเป็นดั่งแหล่งเลี้ยงชีพได้ ควบคู่กับการเขียนเพลงและรับเล่นดนตรีที่ยังมีคนว่าจ้างอยู่ ส่วนร้านน้ำชาถือเป็นวิถีทางสังคมของคนปักษ์ใต้ที่จะต้องใช้สภากาแฟเป็นโต๊ะแลกเปลี่ยนทัศนะทางการเมืองอย่างเผ็ดร้อน” แสง บอกถึงที่มาที่ไปของการกลับมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวที่บ้านเกิดเมืองหาดใหญ่
"แสง ธรรมดา" บอกว่า สำหรับการเปิดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวครั้งนี้นอกจากหารายได้แล้วเป้าประสงค์ที่แยบยลและสำคัญไม่ต่างกันคือ การสร้างแม่เหล็กเพื่อดึงดูดเพื่อนเก่าให้แวะเวียนมาพบปะพูดคุยกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสหายทางดนตรี หรือสหายที่โลดแล่นบนเส้นทางสายการเมืองไปจนถึงสหายที่ได้ดิบได้ดีในเรื่องของธุรกิจและเรื่องอื่นๆ

พร้อมกับการจุดเทียนรำลึกให้ดวงวิญญาณของวีรชนผู้จากไปในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมู่ตุ๋นแห่งนี้ พร้อมกับการบรรเลงบทเพลงที่เคยก้องกังวาลเมื่อคราวผจญชีวิตในป่าเทือกเขาบรรทัดร่วมกับเพื่อนพ้องน้องพี่ผู้เป็นสหายร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตยอีกครั้ง

(หนักเอาเบาสู้ : วันนี้ของศิลปินนักสู้ 'แสง ธรรมดา' จากบทเพลงสู่ร้านก๋วยเตี๋ยว-น้ำชา : โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ)

Cr. // komchadluek.net