สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

จากกรณีที่ นางสุวพิชช์ หนองหัด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 6 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง พร้อมกับสามี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลวังวิเศษ หลังจากที่ นางสุวพิชช์ ได้เดินทางมาคลอดบุตรคนที่ 3 ขณะอายุครรภ์ประมาณ 6 เดือน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30 น. และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา โดยเกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีแพทย์และพยาบาลมาช่วยทำคลอด และดูแลทารกหลังคลอด พร้อมทั้งยังกล่าวหา นางสุวพิชช์ อีกว่ามาคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากอายุครรภ์ยังไม่ครบ 9 เดือน เพราะได้ไปทำแท้งมานั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขอำเภอวังวิเศษ จ.ตรัง นายธีระศักดิ์ มักคุ้น และ นพ.สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา 2 รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นพ.สมเกียรติ พยุหเสนา ผอ.โรงพยาบาลวังวิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดย ผอ.โรงพยาบาลวังวิเศษ ระบุว่า ได้รับตัว นางสุวพิชช์ เข้ารับรักษาเมื่อคืนวันที่ 24 ตุลาคม เวลาประมาณ 02.30 น. และจากการตรวจร่างกายพบว่า มีความดันโลหิตสูง แพทย์ก็สั่งให้นอนพักเพื่อรอดูอาการจนความดันโลหิตเป็นปกติ เพราะขณะนั้น นางสุวพิชช์ ตั้งครรภ์ และมีอาการปวดท้องคลอดด้วยอายุครรภ์ 23 สัปดาห์เศษ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยรายใดที่ทีอายุครรภ์ไม่ถึง 6 เดือน จะไม่มีการอนุญาตให้เข้าห้องคลอดตามระเบียบ จึงให้ นางสุวพิชช์ ไปนอนรอในห้องหลังคลอด ซึ่งถือเป็นวิธีการปกติที่ใช้กับผู้ป่วยทั่วไป โดยมีพยาบาลคอยดูแลตามมาตรฐาน และไม่ได้ทำการตรวจภายใน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการกระตุ้น และอาจทำให้แท้งได้ แพทย์จึงสั่งให้ นางสุวพิชช์ นอนนิ่งๆ ที่สุด กระทั่งผู้ป่วยรายนี้ได้เกิดอาการแท้ง และคลอดบุตรสาวออกมา ซึ่งขณะนั้นทารกมีการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 100 ครั้ง ทำให้มีเปอร์เซ็นต์รอดชีวิตยาก หรือเรียกได้ว่ามีภาวะแท้งคุกคาม แม้แพทย์และพยาบาลจะพยายามทำหน้าที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วก็ตาม


นายธีรศักดิ์ มักคุ้น รองแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า เหตุการณ์นี้อาจเกิดมาจาก 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ เรื่องการสื่อสารของพยาบาลที่ไม่อธิบายให้ผู้ป่วย และญาติได้เข้าใจถึงขั้นตอนการดูแลรักษา ส่วนอีกประเด็นคือ ความรู้สึกของผู้ป่วย ที่คิดว่าตนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ซึ่งถือเป็นความบกพร่องของโรงพยาบาลวังวิเศษ และต้องปรับปรุงงานบริการให้ดีขึ้นกว่านี้ ตนจึงต้องขอโทษผู้ป่วย ครอบครัว และญาติทุกๆ คน พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอวังวิเศษ ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านเพื่อให้การช่วยเหลือ และดูแลอาการอย่างใกล้ชิดแล้ว


ที่มา @ manager.co.th/South