สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

นายสนิท พลปฐพี เกษตรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดพัทลุงประสบภาวะฝนตกหนักและต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และยังพบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคในร่วงในยางพาราเกือบทุกพื้นที่ ซึ่งเกิดจากเชื้อราไฟทอปเทอร์ร่า ทำให้ยางพาราเกิดอาการ ใบร่วง โดยจะร่วงทั้งก้านใบ ทั้งที่มีสีขาวและสีเหลือง ซึ่งความต่อเนื่องจากการระบาดนี้ สามารถเข้าทำลายหน้ากรีดของยางพาราได้


หากเกษตรกรทำการกรีดในวันที่ฝนตก หน้ายางเปียก และบริเวณสวนยางมีความชื้นสูงกว่าร้อยละ 90 โดยเชื้อนี้จะเข้าทำลายหน้ายาง ทำให้เหนือรอยกรีดมีลักษณะเป็นรอยซ้ำ ต่อมาจะกลายเป็นรอยบุ๋มสีดำหรือสีน้ำตาลดำตามแนวยาวของลำต้น เมื่อเฉือนเปลือกบริเวณรอยบุ๋มสีดำ จะเห็นลายเส้นสีดำบนเนื้อไม้ และอาจลุกลามลงใต้รอยกรีด ถ้าอาการรุนแรง เปลือกบริเวณที่เป็นโรคจะปริเน่า มีน้ำยางไหล และเปลือกจะเน่าหลุดออกมา แต่หากการทำลายของเชื้อไม่รุนแรง เปลือกที่งอกใหม่จะเป็นปุ่ม โดยโรคเส้นดำ ถ้ามีอาการรุนแรงจะไม่สามารถทำการกรีดยางซ้ำบนหน้ากรีดเดิมได้อีก ทำให้ระยะเวลาการให้ผลผลิตสั้นลง


สำหรับการป้องกัน ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อรา เป็นพืชร่วม หรือพืชแซมยาง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการกรีดยางในช่วงฤดูฝน หรือกระทำการใดๆ ที่ทำให้ต้นยางเกิดแผลในพื้นที่ที่พบโรคระบาดรุนแรง หากจำเป็นต้องกรีดยางหน้าฝน หรือการกระทำให้ต้นยางเกิดแผลในขณะที่พบโรคใบร่วงระบาด ขอแนะนำให้เกษตรกรใช้สารเคมีทาหน้ากรีด หรือทาที่แผล เพื่อป้องกันโรค เช่น ใช้เมทาแลกซิน ฟอสเอทธิล อลูมินัม ถ้าพบอาการที่หน้ากรีด ขอแนะนำให้เฉือนส่วนที่เป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยสารเคมี เช่น เมทาแลคซิน ฟอสเอทธิลอลูมินัม หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ หรือสำนักงานเกษตรอำเภอในทุกพื้นที่


ที่มา @ สวท.พัทลุง