สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

::: ปัตตานี ::: บูดูสะอาด หาดทรายสวย รวยน้ำตก นกเขาดี ลูกหยีอร่อย หอยแครงสด

อุทยานเเห่งชาติน้ำตกทรายขาว

by sator4u_team @27 ก.ค. 55 11:17 ( IP : 113...5 ) | Tags : ท่องเที่ยวและกิจกรรม
photo  , 428x570 pixel , 238,455 bytes.

อุทยานเเห่งชาติน้ำตกทรายขาว

ที่ตั้งและแผนที่ ต.ทรายขาว อ. โคกโพธิ์ จ. ปัตตานี 94120
โทรศัพท์ : 0 7346 7485 โทรสาร : 0 7346 7485
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายมะแอ เจะโด

อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ค่าพิกัด 47N UTM E731735 N736303 มีอาณาเขตอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง คือปัตตานี ยะลา และสงขลา มีเนื้อที่รวม 43,482 ไร่ หรือประมาณ 69.5712 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี สภาพพื้นที่เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด โดยมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ ดังนี้
ทิศเหนือ - จดตำบลช้างให้ตก ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ - จดตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก- จดตำบลทุ่งพลา ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก - จดตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และตำบลบ้านโหนด ตำบลเปียน ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

ความเป็นมาของการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว เดิมชาวบ้านเรียกว่า “น้ำตกกระโถน” ถูกค้นพบ โดยพระครูศรีรัตนากร (ท่านศรีแก้ว) อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2475 และท่านได้ชักชวนราษฎรทำการปรับปรุงบริเวณน้ำตกทรายขาว ต่อมาน้ำตกแห่งนี้ ได้พัฒนามาเป็นลำดับโดยอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี (กรมป่าไม้) จนถึงปี พ.ศ. 2530 กรมป่าไม้ให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ และจัดตั้งป่าเขาใหญ่ และป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี เพื่อเตรียมประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เพื่อคุ้มครองทรัพยากรแห่งชาติ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เพื่อการศึกษาวิจัยและเพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งมีการนำเสนอผ่านมติเห็นชอบจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติฯ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 อนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ การดำเนินการสำรวจจัดตั้งได้ผ่านขั้นตอนเตรียมการมาเป็นลำดับจนคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ การจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติฯ โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้จัดพิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แต่ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541 ได้มีราษฎรในท้องที่ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุม คัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จากลำดับเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ต้องปรับปรุงการบริหารจัดการโดยศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานภาพ และ ศักยภาพของพื้นที่ วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรในท้องถิ่น ฯลฯ เพื่อนำมาประกอบในการพิจารณา จัดทำแนวเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อราษฎร และสิ่งที่สำคัญ คือ การประกาศเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จะต้องสามารถรักษาความสมบูรณ์ ของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งเป็นที่ยอมรับและเกิดความร่วมมือ จากประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบอุทยานแห่งชาติ
ในปี พ.ศ. 2552 พื้นที่ป่าได้ทำการสำรวจขึ้นใหม่ ไม่มีปัญหากับราษฎร เนื่องจากได้กันพื้นที่ทำกินของราษฎรออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ที่ทำการสำรวจจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติฯ และราษฎรที่อาศัยอยู่รอบบริเวณที่ได้ตรวจสอบกำหนดเขตด้วยโดยได้ผ่านการเห็นชอบจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่เกี่ยวข้องรวม 10 องค์การ และผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ประจำจังหวัดที่เกี่ยวข้องรวม 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และสงขลา โดยผ่านการพิจารณาของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาใหญ่ ในท้องที่ตำบลช้างให้ตก ตำบลทรายขาว ตำบลนาประดู่ ตำบลทุ่งพลา ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ให้ท้องที่ตำบลบ้านโหนด ตำบลเปียน ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 71 ก ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2551 เป็น อุทยานแห่งชาติแห่งที่ 110 ของประเทศไทย

ขนาดพื้นที่ 43482.00 ไร่

หน่วยงานในพื้นที่ หน่วยพิทักษ์ฯที่ ทข.2(น้ำตกพระไม้ไผ่) หน่วยพิทักษ์ฯที่ ทข.1(น้ำตกโผงโผง)

ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ตั้งอยู่ในพื้นที่เทือกเขาสำคัญ คือเทือกเขาสันกาลาคีรี ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนติดต่อกัน ทอดตัวเป็นแนวยาวแผ่ขยายออกไปทางทิศใต้ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออก มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาสันกาลาคีรี (ยอดเขานางจันทร์) มีความสูงประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีพื้นที่บ้างส่วนป็นที่ลาดเชิงเขาและที่ราบเนินเขา มีสันเขาเป็นแนวยาวเป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลา

ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศร้อน ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับพื้นที่ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาวมีความชื้นมาก จึงมีฝนตกชุกและอากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิในระดับ 25.5 ถึง 28 ปริมาณฝนตกมากที่สุด คือ เดือนพฤศจิกายน และธันวาคมของทุกปี

พืชพันธุ์และสัตว์ป่า ชนิดของป่า และพันธุ์ไม้ต่างๆที่สำคัญที่ขึ้นอยู่กับ สภาพลักษณะภูมิประเทศ ได้แก่
- ป่าดิบชื้น ขึ้นอยู่ในสภาพพื้นที่ที่ดินอุดมสมบูรณ์ทั่วไป ทั้งที่ในที่ราบเชิงเขาและภูเขา ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ยาง สยา กะบาก หลุมพอ ไข่เขียว สะตอเหรียง หยี ตะเคียนทอง ตะเคียนชันตาแมว มังคะ หลันตัน ส่วนไม้พื้นล่างได้แก่ ระกำ หวาย เฟิร์น เถาวัลย์ และกล้วยไม้ชนิดต่าง ๆ
- ป่าดิบ ขึ้นอยู่ในสภาพพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์น้อย มีเปอร์เซ็นต์ของทรายสูง ส่วนมากพบในที่ราบ ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ยาง ตะเคียนต่าง ๆ ตำเสาและกะบาก เป็นต้น
สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ได้แก่เลียงผา หมูป่า เก้ง เม่น กระจง ลิง ค่าง อีเห็น กระรอก เป็นต้น สัตว์ประเภทสัตว์ปีก มีนกชนิดต่างๆ เช่น นกขุนทอง นกกางเขน นกปรอดต่าง ๆ นกเหยี่ยว นกดุเหว่า ฯลฯ อาศัยอยู่ในป่าทั่วไป สัตว์น้ำ มีปูหิน ตะพาบน้ำ กุ้ง ปลาชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่ตาม ลำห้วยทั่วไป สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มี กบ เขียด ปาด คางคก คางคกภูเขา (กง) อาศัยอยู่ตามลำห้วย และที่ชื้นแฉะทั่วไป สัตว์ป่า ประเภทเลื้อยคลาน มี งูเหลือม งูเห่า งูกะปะ เต่า ตะกวด กิ่งกาบิน ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าทั่วไป

การเดินทาง การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จากตัวอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สามารถเดินทางมาโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 409 (ปัตตานี-ยะลา) ถึง สามแยกนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี (ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร) จากนั้น เดินทางต่อโดยใช้เส้นทาง (สายนาประดู่-ทรายขาว)เข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว (ระยะทาง 7 กิโลเมตร)


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://sites.google.com/site/prayutboonpatam/xu-thya-neheng-chati-natk-thray-khaw

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 5787
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง