สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

::: พัทลุง ::: เมืองหนังโนราห์ อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบ เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน

เที่ยวถ้ำ...ชมหินงอกหินย้อย…ที่วัดถ้ำสุมโน จ. พัทลุง..

by sator4u_team @25 เม.ย. 55 15:11 ( IP : 118...83 ) | Tags : ท่องเที่ยวและกิจกรรม
photo  , 344x218 pixel , 89,093 bytes.

ทริบนี้จะนำเพื่อนๆ ไปเที่ยวถ้ำ ที่วัดถ้ำสุมโน ซึ่งจะได้เห็นหินงอกหินย้อย ประติมากรรมธรรมชาติภายในถ้ำอย่างน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ถ้ำอื่นๆ ในประเทศไทยที่เราเคยเห็น (เช่น ถ้ำเขาบิน จ. ราชบุรี ถ้ำเลเขากอบ จ. ตรัง ถ้ำพระธาตุ จ. กาญจนบุรี ฯลฯ)

เรามาทำความรู้จักกันสักนิดว่า ถ้ำ คืออะไร ภูเขาประเภทไหนถึงมีถ้ำ  และหินงอกหินย้อยในถ้ำ เกิดขึ้นได้อย่างไร

ถ้ำ คือ..โพรงที่ลึกเข้าไปในภูเขา[1] หรือเป็นช่องที่เป็นโพรงลึกเข้าไปในพื้นดิน มีขนาดใหญ่พอที่มนุษย์สามารถเข้าไปได้ เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการกัดเซาะผุพังทั้งทางกายภาพและทางเคมี  โดยทั่วไปถ้ำเกิดในหินปูนที่มีน้ำใต้ดินไหลผ่านกัดเซาะ มักพบถ้ำตามภูเขาหินปูน หรือ ภูเขาชายฝั่งทะเล เนื่องจากหินปูนละลายน้ำได้ง่าย เมื่อหินปูนทำปฏิกิริยากับน้ำ ทั้งน้ำฝนและน้ำใต้ดิน ก็จะมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ที่ค่อย ๆ ละลายหินทำให้สึกกร่อนเกิดเป็นโพรง และเกิดเป็นหินงอกหินย้อยขึ้นภายในถ้ำ นอกจากนี้ ยังมีถ้ำที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์อีกด้วย

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า...ภูเขาไหนเป็น..ภูเขาหินปูน
ภูเขาหินปูน ส่วนมากจะเกิดในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ฝนตกมาก  พื้นผิวที่ขรุขระเป็นริ้วเป็นร่อง มีหินปุ่มตามพื้นรอบเขา มักเป็นหน้าผาสูงชัน ยอดเขามีลักษณะตะปุ่มตะป่ำหรือเว้าขึ้นเว้าลง รูปร่างแปลกตาโดดเด่นกว่าภูเขาหินชนิดอื่น ภูเขาหินปูนพบอยู่ทุกภาคของประเทศ

หินงอก หินย้อย เกิดได้อย่างไร
หินงอก (Stalagmites)  คือ ตะกอนหินปูนที่จัดตัวเป็นแท่งสูงจากพื้นถ้ำขึ้นไปหาเพดานถ้ำ เกิดจากหยดน้ำที่ไหลออกจากหินย้อยเมื่อหล่นถึงพื้นถ้ำจะเกิดการสูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์ ให้สารประกอบคาร์บอเนตเกิดการสะสมตัวและค่อยๆ สูงขึ้นจากพื้นถ้ำ

หินย้อย (stalactites)  คือ ตะกอนหินปูนที่จับตัวเป็นแท่งหรือแผ่นย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ เกิดจากน้ำใต้ดินที่มีหินปูนละลายอยู่หยดลงมาจากรอยแตกบนเพดานถ้ำ และเมื่อน้ำสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปก็จะทำให้เกิดสารประกอบคาร์บอเนตเริ่มสะสมตัวทีละน้อย และพอกยาวลงมาจากเพดานเรื่อยๆ โดยปกติมักมีลักษณะเป็นหลอดกลวงอยู่ตรงกลาง

การชมหินงอกหินย้อย ให้ชี้ห่างๆ อย่าเอามือไปแตะหินงอกหินย้อย..  เพราะหินงอกหินย้อยแวววาวเหมือนสิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต หากโดนมือซึ่งมีอุณหภูมิร้อนและอาจมีคราบมัน..จะทำให้หินงอกหินย้อยตาย คือไม่งอกอีกและผิวด้านไม่แวววาวอีก ..ดังนั้น เวลาเราเที่ยวถ้ำหินงอกหินย้อยต้องระวังรักษาให้เค้าอยู่ตามธรรมชาติด้วยนะคะ อย่าเอามือไปแตะต้องเด็ดขาด ชื่นชมความงามด้วยตามอง มืออย่าต้อง..หินจะตาย

ถ้ำสุมโน

ที่ตั้ง สำนักสงฆ์ถ้ำสุมโน  หมู่ที่ 12  ตำบลบ้านนา    อำเภอศรีนครินทร์ ห่างจากจังหวัดพัทลุงไปตามเส้นทาง แผ่นดินหมายเลข 4 พัทลุง – ตรัง ระยะทางประมาณ 25  กิโลเมตร

ความสำคัญ  ถ้ำสุมโนเป็นถ้ำภูเขาหินปูนที่มีขนาดใหญ่  กว้างขวาง ภายในมีหินงอกและหินย้อยสวยงามแบ่งออกเป็นสองชั้น คือถ้ำบนและถ้ำล่าง  นอกจากถ้ำสุมโนแล้ว ยังมีถ้ำแก้วและถ้ำลอด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน นอกจากนี้ ถ้ำสุมโน ยังเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยและมีห้องโถงกว้างขวางใหญ่โตและร่มเย็นวิจิตรตระการตาตามธรรมชาติซึ่งมีทั้งหมด 18 ถ้ำ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ หลายองค์ บริเวณถ้ำยังเป็นสถานที่วิปัสสนาและปฏิบัติธรรมอีกด้วย

ศักยภาพ  ถ้ำสุมโนตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางสายพัทลุง – ตรัง และอยู่บนเส้นทางท่องเที่ยว หาดใหญ่ กระบี่ พังงา ภูเก็ต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเมื่อผ่านเส้นทางดังกล่าวก็จะแวะเยี่ยมเยียน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ประวัติวัดถ้ำสุมะโน

สถานที่สร้างวัดถ้ำสุมะโน ภูเขาเป็นถ้ำสองคูหานี้ เดิมเป็นสถานที่ว่างเปล่าเป็นป่าปกคลุมมีดินกลบอยู่ จนไม่มีใครสงสัยว่าเป็นถ้ำ แต่เนื่องด้วยถูกค้นพบโดย พระอาจาร์เดช  สุมโน ท่านเป็นพระที่มีภูมิลำเนาเดิม อยู่ทางภาคอีสาน อุปสมบทเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๑๖ เมื่อบวชแล้วออกธุดงค์อยู่ ๕ พรรษา แล้วเข้ามาศึกษาปริยัติธรรมที่กรุงเทพมหานครและหลังจากออกพรรษาแล้วก็กลับไปเยี่ยมพระอาจารย์ ท่านหนึ่งทางแถบภาคอีสาน และเมื่อได้มีโอกาสกราบท่านแล้ว พระอาจารย์ท่านได้ปรารภขึ้นว่า

"ท่านเดชเอ๋ย หลวงพ่ออยู่ในถ้ำ ร้อนก็ไม่ร้อน หนาวก็ไม่หนาว"  คำพูดสั้นๆประโยคนี้เป็นที่ประทับใจของอาจารย์เดชมาก ประมาณปี ๒๕๒๕ คิดจะออกจากการเรียนปริยัติธรรมที่กรุงเทพมหานครแล้วกลับไปสู่ป่าตามเดิม จึงนึกถึงคำพูดสั้นๆในวันนั้น ก็ได้ไปตั้งจิตอธิษฐานที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ว่าขอให้พบถ้ำที่ถูกใจ

และหลังจากอธิษฐานแล้ว ก็ได้แสวงหาถ้ำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ธุดงค์ไปทางภาคเหนือ จึงจำพรรษาที่วัดถ้ำเชียงดาวและในพรรษานั้นเองก็รู้จุดที่ตัวเองต้องการว่าอยู่ทางภาคใต้ ระยะทางจาก จ.พัทลุงไปทาง จ.ตรัง มาตามถนนเพชรเกษมประมาณ ๒๕ ก.ม.

จนกระทั่งออกพรรษาก็ธุดงค์ลงมาทางภาคใต้ มาพักที่ จ.ภูเก็ต เพราะคุ้นเคยกับญาติธรรมชาว จ.ภูเก็ต เพราะเคยจำพรรษาที่นั่น แล้วก็เดินทางต่อมาพักที่ถ้ำน้ำใต้บ่อ

วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๓๐ ได้ธุดงค์มาถึงจุดหมายที่กำหนดไว้ วันรุ่งขึ้นก็ค้นหาถ้ำที่ตนเองต้องการ จนพบภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง ซึ่งปกคลุมไปด้วยป่า จึงแหวกป่าเข้าไปในภูเขาก็เห็นถ้ำที่ตนถูกใจ จึงได้เข้าไปภายในถ้ำ เปล่งวาจาตั้งสัจจะอธิษฐานในถ้ำแห่งนี้ว่า

"ข้าพเจ้าจะพัฒนาถ้ำแห่งนี้ให้เป็นที่รวมญาติสายโลหิตแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"

วันปฐมแห่งการพัฒนาถ้ำครั้งแรก เกิดขึ้นในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะข่าวนี้ได้รู้ไปถึงญาติธรรมชาว จ.ภูเก็ต ก็ได้เดินทางมาช่วยพัฒนาถ้ำแห่งนี้เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๓๐ ถ้ำแห่งนี้ไม่มีชื่อมาก่อน คณะญาติธรรมจึงได้ตั้งชื่อว่า "ถ้ำสุมะโน" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยตั้งชื่อตามฉายาของผู้ค้นพบถ้ำเป็นคนแรก

ต่อมาคุณบัญชา  นำศรีรัตน์ ถวายที่ดินรอบภูเขา ๘ ไร่ ที่มีเอกสาร น.ส.๓ก ให้สร้างวัดมีนามว่า วัดถ้ำสุมะโน และมีผู้ศรัทธาซื้อที่ดินถวายเพิ่มเติมรอบภูเขาสองลูก ๗๘ ไร่ รวมทั้งภูเขาด้วยประมาณ ๕๐๐ ไร่

วัดถ้ำสุมะโนมีอยู่ ๑๘ ถ้ำ

๑.ถ้ำพระอุโบสถ
๒.ถ้ำหอฉันบรรจบ
๓.ถ้ำนพดารา
๔.ถ้ำอรทัย
๕.ถ้ำสุฒชนะ(ฤาษี)
๖.ถ้ำพุทธบัณฑิต
๗.ถ้ำนกคุ้ม
๘.ถ้ำแก้ว
๙.ถ้ำมหามงคล
๑๐.ถ้ำน้ำลอด
๑๑.ถ้ำพญานาค
๑๒.ถ้ำพ่อมหาราช ๑๓.ถ้ำหลวงพ่อทราย ๑๔.ถ้ำพระธาตุสิวลี(น้ำตก) ๑๕.ถ้ำพระนอน ๑๖.ถ้ำมาฆะ ๑๗.ถ้ำลับแล ๑๘.ถ้ำค้างคาว

(หมายเหตุ ปัจจุบันมีญาติธรรมและนักปฏิบัติเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำสุมะโนเดือนละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน สมดังสัจจาฐิษฐานที่ว่าพัฒนาถ้ำแห่งนี้ให้เป็นที่รวมญาติสายโลหิตแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของท่านพระอาจารย์เดช เนื่องจากผู้คัดลอกเดินทางไปเห็นวันที่ญาติโยมมากันเป็นพันจริงๆ เห็นแล้วทึ่งจริงๆค่ะ)

คัดลอกบางส่วนจากคู่มือภาวนาพุทธมนต์ วัดถ้ำสุมะโน  พร้อมของฝากจากแผ่นไม้ในวัดค่ะ

รวย        เพราะให้ทาน
งาม    เพราะรักษาศีล
มีปัญญา  เพราะเจริญภาวนา
เกิดในตระกูลสูง      เพราะอ่อนน้อมถ่อมตน
มียศฐาบรรดาศักดิ์    เพราะไม่อิจฉาริษยาใคร


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://www3.cdd.go.th/srinagarin/tour.html และ http://www.oknation.net/blog/Chaoying/2012/03/03/entry-1 และ http://medinfo.psu.ac.th/pr/WebBoard/readboard.php?id=15147

และประวัติวัดถ้ำสุมะโน จาก http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/003008.htm


สะตอฟอร์ยูสะตอฟอร์ยูดอทคอม (Sator4U.com FC) on Facebook

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 1964
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง