ล่องใต้ ผจญภัยไปกับสายน้ำที่ "พังงา-ภูเก็ต"
ผจญภัยที่ลำน้ำโตนปริวรรต และ ไปดำดิ่งสู่ใต้ทะเลที่เกาะราชาใหญ่ กัน
อยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้ร้อนทั้งกาย ร้อนทั้งใจ นี่ขนาดจะเข้าหน้าฝนแล้ว อุณหภูมิความร้อนก็ยังไม่คลายลงเสียที วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "ตะลอนเที่ยว" เลยคิดหนีร้อนลงใต้ ไปกระโดดลงน้ำให้เย็นกายเย็นใจ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มในกิจกรรมท่องเที่ยวผจญภัยอันสนุกสุดเหวี่ยง
*ล่องไปในลำน้ำโตนปริวรรต
พอบอกใครๆ ว่าจะไปล่องแก่งที่พังงา ก็มีแต่คนถามว่า พังงามีที่ล่องแก่งด้วยหรือ
ขอเฉลยเลยแล้วกันว่า ที่พังงาก็ล่องแก่งได้เหมือนกัน แถมล่องได้ทั้งปี ไม่มีหมดสนุกนั่นก็คือที่ "โตนปริวรรต"
ที่ที่จะไปล่องแก่งนี้ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำตกโตนปริวรรต ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงา สถานที่ท่องเที่ยวภายในก็จะมีน้ำตกโตนปริวรรต หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกสองแพรก เป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก บริเวณโดยรอบก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างเส้นทางนั้นจะได้พบกับพรรณไม้ที่มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
ในส่วนลำธารที่จะไปล่องแก่งกันนั้น ถ้าเป็นในช่วงหน้าฝนน้ำก็จะเยอะมากหน่อย ความแรงของน้ำในการล่องแก่งประมาณระดับ 4 – 5 แต่ในช่วงหน้าแล้ง ระดับน้ำน้อยเกินกว่าที่จะใช้ล่องแก่งได้ จึงต้องพึ่งพาการกักเก็บน้ำในฝายที่สร้างขึ้นมา เมื่อปล่อยน้ำลงมาจากฝายแล้ว ก็จะได้ความแรงระดับ 1 – 2 ทำให้สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี ส่วนระยะทางในการล่องแก่ง มีทั้ง 5, 7 และ 9 กิโลเมตร (ระยะทาง 9 กิโลเมตรเล่นได้เฉพาะช่วงหน้าฝน)
เมื่อแรกที่ไปถึงก็ลองมองหาลำน้ำที่จะใช้ล่องแก่ง เดินไปเดินมาก็มีอยู่ที่เดียว แต่ทำไมเหลือน้ำอยู่น้อยนิด เอาเรือลงไปก็ติดพื้นแล้ว แล้วแบบนี้จะล่องแก่งได้ยังไง
แต่เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ใส่เสื้อชูชีพกับหมวกกันกระแทก แล้วไปฟังบรรยายเรื่องวิธีการล่องแก่งและการปฏิบัติตัวต่างๆ เพื่อความปลอดภัย จากนั้นก็ให้ไปลงเรือที่เอาลงน้ำแห้งๆ ไปแล้ว เอา...ลงก็ลง
นั่งลงสักพัก ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลลงมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ต้องตกใจ ไม่ได้มีน้ำป่าไหลบ่าแต่อย่างใด เป็นแค่การเปิดฝายที่เก็บน้ำไว้เพื่อการล่องแก่งโดยเฉพาะ รอให้น้ำเต็มสักหน่อย ก็เริ่มปล่อยเรือไหลไหลไปตามกระแสน้ำ
เมื่อเริ่มออกตัว ความมันส์ก็เริ่มต้นขึ้น เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นเป็นระยะๆ แต่ละเกาะแก่งที่ผ่านไป ก็เสียววูบวาบตามความลาดชันและความเร็วแรงของกระแสน้ำ บางทีก็ล่องผ่านเรือที่มาพร้อมๆ กัน บางทีเรือลำอื่นก็นำไปบ้าง
ระยะทาง 5 กิโลเมตร ดูเหมือนจะไกล แต่พอลงไปล่องแก่งจริงๆ แล้ว แทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย อาจจะเพราะความเย็นสดชื่นของน้ำ บวกกับฝนที่ตกลงมาพรำตลอดทาง ทำให้ไม่ร้อน ไม่เหนียวตัว แถมพอขึ้นฝั่งยังแอบหนาวสั่นนิดๆ ด้วยซ้ำไป
ระหว่างทางกลับไปยังต้นทางที่จอดรถไว้ ก็เลยลองถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการล่องแก่งที่โตนปริวรรต ได้ความว่า ในช่วงหน้าแล้วแบบนี้ จะสามารถล่องแก่งได้วันละ 2 รอบ คือรอบเช้า 11.00 น. และรอบบ่าย 14.00 น. เพราะต้องปล่อยน้ำจากฝายเป็นเวลา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่มักจะเป็นชาวต่างชาติ มาพักผ่อน ล่องแก่ง นั่งช้างชมธรรมชาติ และทำกิจกรรมผจญภัยอื่นๆ ด้วย
ส่วนการเตรียมตัวมาล่องแก่ง ก็เพียงใส่ชุดที่ทะมัดทะแมง เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังล่องแก่งเสร็จ ปฏิบัติตัวตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้ร่วมทาง สุดท้าย ก็เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม จะได้ไปสนุกกันให้เต็มที่กับสายน้ำเย็นๆ ที่โตนปริวรรต
วันรุ่งขึ้น หลังจากเติมพลังกันเต็มที่แล้ว เราเปลี่ยนอารมณ์จากการผจญภัยในน้ำจืดหรือแม่น้ำมุ่งหน้าไปผจญภัยในน้ำเค็มหรือน้ำทะเลกันที่เกาะราชาใหญ่ โดยออกจากที่พักไปยังท่าเทียบเรือรัษฎา เพื่อขึ้นเรือต่อไปยังเกาะราชาใหญ่ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั้น เราก็เตรียมตัว เตรียมใจ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมพรัก
เกาะราชาใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ในพื้นที่เขตปกครองของ อบต.อ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะจะเป็นภูเขา มีชายหาดโค้งยาวสวยงามอยู่หลายหาด มีเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติได้รอบเกาะ เกาะราชาใหญ่จะแบ่งออกเป็นอ่าวใหญ่ 5 อ่าว คือ อ่าวตะวันตก หรืออ่าวปะตก อ่าวสยาม อ่าวทือ อ่าวขอนแค และอ่าวหลา
ปัจจุบันเกาะราชาใหญ่กลายเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในทะเลอันดามัน เพราะน้ำทะเลรอบเกาะใสตลอดทั้งปี มีปะการังและสัตว์น้ำต่างๆ มากมาย นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ จึงม่ควรพลาดการดำน้ำ ทั้งดำน้ำตื้น และดำน้ำลึก และสำหรับบริเวณที่จะมาดำน้ำในวันนี้ จะอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะราชาใหญ่
ระหว่างเดินทางก็ใช้เวลาว่างด้วยการสำรวจเรือ บนเรือก็มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพักผ่อน ส่วนทำครัว และดาดฟ้า ลองขึ้นไปแอคท่าถ่ายรูปบนดาดฟ้าเรือ ซักพักก็ต้องรีบลงมา เพราะแดดอันร้อนแรง ไม่มีส่วนไหนให้หลบพักได้เลย เลยตัดใจลงมาดูหนังในห้องพักผ่อนจะดีกว่า
ดูหนังไปซักพักพอเคลิ้มๆ ก็ถึงเกาะพอดี ทริปในวันนี้ไม่ได้พาชาวคณะขึ้นไปเหยียบหาดทรายขาวสะอาดบนเกาะแต่อย่างใด ได้แต่กระโจนลงน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าสดสวยแทน แล้วแหวกว่ายราวกับปลาพะยูนก็ไม่ปาน
ก่อนจะลงไปก็เตรียมซักซ้อมความเข้าใจกันให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะลงไปใต้น้ำแล้วจะถอดหน้ากากออกมาคุยกันก็ไม่ได้ ตกลงแบ่งกลุ่มจับคู่กันเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันไปแต่งองค์ทรงเครื่องให้พร้อม
ไดฟ์แรกนั้น เริ่มกันที่การเช็คไดฟ์ คือเช็คกระแสน้ำ และทิศทางต่างๆ ซึ่งอันนั้นก็เป็นหน้าที่ของ Instructor ไป ส่วนมือสมัครเล่นอย่างเราก็มีหน้าที่แต่ว่ายตามติดครูเพียงอย่างเดียว เมื่อตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ไปยืนรอบริเวณท้ายเรือเพื่อดำดิ่งลงไปในทะเล ใจนึงก็ตื่นเต้นเล็กน้อย แอบทบทวนสัญลักษณ์ที่จะต้องใช้ตอนอยู่ใต้น้ำ อีกใจก็อยากจะลงไปเร็วๆ จะได้รู้ซะทีว่าโลกใต้น้ำมันมีอะไรรออยู่
ตูมแรกที่ลงไปในน้ำ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือความเค็ม น้ำเค็มเข้าปากไปตามระเบียบ ลองใช้เจ้าเรคกูเรเตอร์หายใจทางปากแทนการหายใจแบบปกติ ลองดูสักพักก็เริ่มชิน คุณครูเลยให้ดำลงไปเรื่อยแบบค่อยเป็นค่อยไป ระหว่างนั้นก็ให้เคลียร์หู (ปรับความดันในหู) ไปด้วย ความลึกที่ดำในวันนี้อยู่ที่ประมาณ 8 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่นักดำน้ำมือสมัครเล่นที่เพิ่งเริ่มต้นพอจะทำได้
พอลงไปเจอกับโลกใต้น้ำแล้ว เป็นเหมือนโลกอีกใบที่ทำให้ลืมทุกอย่างที่อยู่บนบกเลยทีเดียว น้ำทะเลใสสะอาด ปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายไปมาเหมือนจะทักทายผู้ที่เพิ่งลงไป ได้เห็นปะการังเขากวาง และปะการังแข็งที่มีลักษณะสมบูรณ์อยู่โดยรอบ
มุมมองของการดำน้ำตื้นก็แตกต่างจากการดำน้ำลึก คือเหมือนกับการสังเกตการณ์อยู่ในมุมสูง ซึ่งการดำน้ำลึกจะมีความรู้สึกเหมือนตามติดชีวิตสัตว์ใต้น้ำแบบใกล้ชิด ความรู้สึกก็แตกต่างไปคนละแบบ แต่ความสนุกสนานไม่ได้น้อยกว่ากันเลย
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบไหน สิ่งที่จะควรจะคิดถึงก็คือ ไม่ควรไปรบกวนการใช้ชีวิตสัตว์ใต้น้ำ ไม่ควรทำลายสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์โลกใต้ทะเลไว้ให้นักดำน้ำรุ่นหลังๆ ได้ชื่นชมกันต่อไป
โดยผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2203-4222 หรือ ดูที่ www.thailanddiveexpo.com
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพทั้งหมดจาก : http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000065399
สะตอฟอร์ยูดอทคอม (Sator4U.com FC) on Facebook
Relate topics
- ตลาดปล่อยของ จ.ภูเก็ตตลาดนัดสุดบรรเจิดท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งแบบสบาย ๆ ใน Limelight Avenue ใจกลางเมืองภูเก็ต ที่มีพื้นที่สำหรับปลดปล่อยสินค้าไอเดีย โดยภายในตลาดจะมีพ่อค้าแม่ขายมาวางของแฮนด์เมดดีไซน์เก๋ ๆ แฟชั่นแนว ๆ อาทิ
- 20 สถานที่ท่องเที่ยว "พังงา" ที่ชาตินี้ต้องไปเยือนให้ได้!!!แร่หมื่นล้านบ้านกลางน้ำถ้ำงามตา ภูพาแปลก แมกไม้จำปูน บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร
- เจดีย์ปะการัง โบราณสถานเก่าแก่ของเมืองขนอม เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 1000 ปีเจดีย์ปะการัง โบราณสถานเก่าแก่ของเมืองขนอม เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 1000 ปี ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาธาตุ ในวัดจันทน์ธาตุทาราม เจดีย์เป็นรูปโอคว่ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร สร้างขึ้นโดยนำหินปะการั
- มารู้จัก "โลมาสีชมพู" พระเอกแห่งท้องทะเลขนอม จ.นครศรีธรรมราช กันเถอะ! ก่อนอื่น! ลองมาทำความรู้จัก "ขนอม ...อัญมณีแห่งอ่าวไทย" กันสักฮี
- เจดีย์ไตรภพไตรมงคล หรือ เจดีย์สเตนเลสส์ ตั้งสถิตโดดเด่นเป็นสง่า อยู่บนยอดเขาคอหงส์เจดีย์ไตรภพไตรมงคล หรือเจดีย์สเตนเลสส์ อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำด้วยวัสดุสเตนเลสส์ ตั้งสถิตโดดเด่นเป็นสง่า อยู่บนยอดเขาคอหงส์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 บ้านในไร่ ถนนปุณณกัณฑ์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหว
- เกาะรอก แม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ คู่กันสองเกาะ แต่มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นักเกาะรอก ไกลจากเกาะลันตาใหญ่ออกสู่ทะเลกว้างอีก 47 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของเกาะรอก แม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ คู่กันสองเกาะ แต่มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นัก เป็นเจ้าของหาดทรายขาว น้ำทะเลสีมรกต มีปะการังฝูงปลาหลา
- เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล"เกาะหลีเป๊ะ (Koh Lipe)" เป็นหนึ่งในหลายๆ เกาะของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่ง หลีเป๊ะ จะตั้งอยู่สุดเขตแดนใต้ อยู่ในกลุ่มของหมู่เกาะอาดัง - ราวี และอยู่ห่างจาก ท่าเรือปากบารา 62 กิโลเมตร ตัวเกาะเ
- เที่ยวบากันใหญ่-หัวทาง กลางมรสุมอันดามันเที่ยวบากันใหญ่-หัวทาง กลางมรสุมอันดามัน (อ.ส.ท.) จริยา ชูช่วย...เรื่อง นภดล กันบัว...ภาพ “ไปทำไมอันดามันหน้ามรสุม” ปลายเดือนมิถุนายนไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งอันดามันเป็นแน่ เกาะตะรุเตา เกา
- วิทยาลัยชุมชนสงขลา จัดกิจกรรมทดลองการนำเที่ยวเชิงนิเวศตำบลบ้านขาว อ.ระโนด นำร่อง การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน “อเมซอนแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา”วิทยาลัยชุมชนสงขลา จัดกิจกรรมทดลองการนำเที่ยวเชิงนิเวศตำบลบ้านขาว อ.ระโนด นำร่อง การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน “อเมซอนแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา” ที่จุดลงเรือ ตำบลบ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา วิทยาลัยชุ
- เขาไข่นุ้ย ...จุดชมทะเลหมอกของพังงา อะเมซิ่งทะเลหมอกสุดเจ๋งเขาไข่นุ้ย ตั้งอยู่ที่ บ้านฝายท่า ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยทางอบต.ทุ่งมะพร้าวมีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการปรับพื้นที่ จัดแต่งภูมิทัศน์ให้เหมาะสม ปรับแต่งลานการเต็นท์ จัดสร้างห้องน