สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

‘ถ้าพวกคุณ นักศึกษา ไม่ลุกขึ้นสู้ เพื่อสร้างอนาคตให้พวกคุณแล้ว ใครจะสร้างให้คุณ...? เราเป็นแนวหน้ายืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งหมดนี้เพื่ออนาคตของเยาวชนฮ่องกง..’

ได้ยินคำพูดนี้ เกือบร้อยทั้งร้อย คงไม่เชื่อ นี่จะเป็นคำพูดของนักศึกษาหนุ่มน้อยชาวฮ่องกง อายุอานามเพียงแค่ 17 นาม ‘โจชัว หว่อง’ ซึ่งเป็นแกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ที่จะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งผู้ว่าการคนใหม่ในฮ่องกง ปี 2560 โดยประกาศผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งต้องได้รับอนุมัติจากทางการจีนเท่านั้น ทั้งที่เคยรับปากจะให้สิทธิเสรีภาพเลือกตั้งโดยตรงครั้งแรก...

การประท้วงทวีความตึงเครียดขึ้นมาทันที หลังจากทางการตัดสินใจส่งตำรวจปราบจลาจล ยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่บริเวณใกล้กับตึกที่ทำการรัฐบาล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย. จนกลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่สุดบนเกาะฮ่องกง หลังกลับคืนสู่อ้อมอกของจีน แผ่นดินแม่ มานาน 17 ปี

‘โจชัว หว่อง’ โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางม็อบฝูงชน ในฐานะแกนนำเหล่านักศึกษาที่เข้ามาร่วมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านอำนาจเผด็จการของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน ทั้งที่อายุของเขายังน้อยมาก


สื่อต่างชาติหลายสำนัก ให้ความสนใจ โจชัว หว่อง และกล่าวถึง หนุ่มน้อยคนนี้ ด้วยความทึ่ง อย่าง นสพ.เดอะการ์เดียน ในอังกฤษ พาดหัวข่าวในหน้าเว็บไซต์ บอกว่า โจชัว หว่อง : วัยรุ่นผู้กลายเป็นหน้าตาของการประท้วงที่ฮ่องกง





‘ด้วยผมทรงม้าปรกหน้าผาก, เสื้อยืดทีเชิร์ตลายขวาง มีกระเป๋าที่หน้าอก และมีเครื่องประดับ ริบบิ้นสีเหลือง ผูกไว้กับข้อมือ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้หนุ่มวัย 17 มีความแตกต่างจากวัยรุ่นคนอื่นๆ ขณะเขาเผชิญหน้ากับกล้องทีวี’

เป็นมุมมองที่เดอะ การ์เดียน มีต่อโจชัว หว่อง และบอกว่า เขายังอายุน้อยเกินไปกว่าจะขับรถยนต์ หรือไปดื่มกินเหล้าในผับเสียด้วยซ้ำ แต่แล้ว หนุ่มคนนี้ กลับกลายเป็นใบหน้าของการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ชาวฮ่องกงฮึดสู้ มาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 หน ทั้งที่เขามีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น...


โจชัว หว่อง เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ‘Scholarism’ การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และกลายเป็นนักกิจกรรม ตั้งแต่อายุแค่ 15 ปี ตอนนั้น โจชัว นำการประท้วงต่อสู้กับแผนนโยบายด้าน ‘การศึกษาแห่งชาติ’ ซึ่งถูกชาวฮ่องกงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘โปรปักกิ่ง’ สนับสนุนรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์อย่างเอียงกระเท่เร่ และถือว่า เป็นการศึกษาที่พยายามจะล้างสมองชาวฮ่องกง

ทั้งที่อายุ 15 ปี เพิ่งเปลี่ยนคำนำหน้า ชื่อจากเด็กชาย มาเป็นนาย ไม่เท่าไหร่ โจชัว ได้เป็นแกนนำฝูงชนนับแสนออกมาประท้วงบนท้องถนน จนทำให้เขากลายเป็นบางสิ่งบางอย่างของคนดัง โดยบางที โจชัวอาจเป็นผู้นำม็อบฝูงชน คนแรกที่เรียกร้องให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อถกเรื่องผลการสอบ!!

กระทั่งมาถึงการประท้วงครั้งนี้ โจชัว เป็นแกนนำกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งมีกลุ่ม ‘ออคคิวพาย เซ็นทรัล’ (Occupy Central)เป็นหัวขบวน  น่าจะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ มีนักศึกษาหลายพันคนชุมนุมประท้วงอยู่ที่มหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง ประกาศจะปักหลักชุมนุมประท้วงนานนับสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.


และด้วยพลังความกล้าบ้าบิ่นของคนหนุ่มคนสาว ที่ไม่หวาดกลัวอำนาจของทางการ ทำให้นักศึกษาหลายพันยกระดับการชุมนุม ด้วยการบุกไปยึดบริเวณรอบนอกตึกที่ทำการรัฐบาล บนถนนแอดไมรอลตี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. จนถูกทางการส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าเคลียร์พื้นที่ ฉีดสเปรย์พริกไทย สลายม็อบ แต่นั่น ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง เกาะเล็กๆ ที่มีประชากรราว 7 ล้านคน แต่มีเศรษฐกิจอู้ฟู่อย่างยิ่ง

สำหรับโจชัว หว่อง เขาถูกตำรวจจับกุมตัวไปในฐานะแกนนำม็อบ ตั้งแต่วันนั้น และถูกคุมขังนานถึง 40 ชั่วโมง ก่อนจะถูกปล่อยตัวในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย. และคืนนั้น ได้เกิดเหตุรุนแรง ม็อบเผชิญหน้ากับตำรวจปราบจลาจล จนถึงขั้นต้องยิงด้วยแก๊สน้ำตา





สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อม็อบประกาศจะสู้ไม่ถอย ไม่ยอมแยกย้ายกันกลับบ้านตามเสียงเรียกร้องของเหลียง ชุน หยิน ผู้ว่าการฮ่องกง ที่พยายามเตือนแล้วเตือนอีกว่า รัฐบาลจีนจะไม่ยอมประนีประนอมให้กับการกระทำที่ผิดกฎหมายเด็ดขาด


‘ถ้าการเคลื่อนไหวของฝูงชนจำนวนมาก กลายเป็นการไปเคารพยกย่องบุคคลโดยเฉพาะเจาะจง นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่’ โจชัว หว่อง เคยพูดไว้เมื่อปี 2555 หลังจากเป็นแกนนำผู้คนเรือนแสนชุมนุมประท้วงเรื่องการศึกษาแห่งชาติ

แน่นอน การหาญกล้าชนิดดับเครื่องชนออกมาเป็นแกนนำม็อบต้านจีน ตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อมทำให้รัฐบาลแดนมังกรจับตามองความเคลื่อนไหวโดยตลอด พร้อมทั้งเคยโจมตี กลุ่ม Scholarism ที่โจชัว หว่องร่วมก่อตั้ง ว่าเป็นพวกหัวรุนแรง และยังอ้างว่า กองกำลังสหรัฐฯ ได้ยุยงปลุกปั่น หว่องให้กลายเป็น ‘ซุปเปอร์สตาร์การเมือง’ แต่คนรุ่นใหม่อย่างเขา ปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าวของทางการจีนว่าไม่เป็นความจริง


ไมเคิล วิดเลอร์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ซึ่งช่วยดำเนินการแทนหว่อง ในช่วงที่เขาถูกควบคุมตัว กล่าวถึงหนุ่มน้อยโจชัว หว่อง ว่า เขาเป็นคนมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่เป็นคนมีหลักการ เกินอายุ

‘เขายังเด็กมาก แต่เป็นคนเฉลียวฉลาด ซึ่งคุณไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่สามารถมีเวลาเหลือเฟือให้กับเขา เขาเป็นลูกชายของแม่ทุกๆ คน เป็นคนสุภาพ, มีหลักการ และทำงานหนัก’ วิดเลอร์ ให้ความเห็นที่เขามีต่อหนุ่มน้อยคนนี้

พร้อมกับบอกว่า พ่อแม่ของโจชัว หว่อง คือ เกรซ และโรเจอร์ เป็นคนเงียบมากๆ เป็นคนชั้นกลาง เป็นครอบครัวเรียบง่ายธรรมดา มากกว่าจะเป็นนักเคลื่อนไหว

ขณะที่ หนุ่มโจชัว กล่าวถึงครอบครัวของตัวเองว่า พ่อแม่ของเขา ไม่เคยสปอยล์ เลี้ยงดูเขาอย่างตามใจ เพียงแต่ให้ อิสระ  เสรีภาพ จึงทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้...

Cr. ไทยรัฐออนไลน์