การดูแลตัวเอง..... ของผู้ที่ตัดถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีมีลักษณะเป็นกระเปาะเล็กๆ ติดอยู่กับตับ (น้ำดีที่ผลิตจากตับจะมาเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี) และมีท่อเชื่อมต่อไปยังลำไส้เล็ก เราสามารถสรุปอย่างง่ายๆว่า ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะ หรือเป็นที่พักของน้ำดีก่อนที่จะเดินทางไปยังลำไส้เล็กเพื่อทำหน้าที่ย่อยอาหารพวกไขมัน ที่จริงแล้วหน้าที่ของน้ำดีคือทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลงก่อน ที่จะเข้าสู่ขบวนการย่อยที่แท้จริง
ผู้ที่ถูกตัดถุงน้ำดี จะไม่มีแหล่งเก็บน้ำดี ทำให้น้ำดีที่ผลิตออกมาเอ่ออยู่ในตับ และส่งผลให้ปริมาณน้ำดีที่จะถูกส่งไปที่ลำไส้เล็กลดลง จึงมีผลกระทบต่อต่อระบบย่อยอาหารอย่างแน่นอน ทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องเสียหรือท้องผูก นอกจากนี้ เมื่อน้ำดีเอ่อล้นในตับ ตับจะทำงานได้ลดลง (ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนแล้ว ภาวะที่ตับทำงานได้ลดลงรวมกับภาวะลำไส้เล็กย่อยอาหารได้ไม่เต็มที่ จะทำให้เกิดความผิดปกติในการนอน นอนไม่หลับ หายใจมีกลิ่นเหม็น) ปริมาณน้ำดีที่ลดลงยังส่งผลให้ตับอ่อนและม้ามทำงานแย่ลง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคเบาหวาน อย่างที่เข้าใจกันว่าอวัยวะแต่ละอย่างในร่างกาย มีความเกี่ยวข้องกัน เหมือนกับที่ม้ามมีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับถุงน้ำดี เมื่อถุงน้ำดีถูกตัดทิ้ง ม้ามจะทำเสียสมดุล ทำให้ม้ามทำงานแย่ลง (ตามหลักแพทย์แผนจีน กล่าวว่า ม้ามจะให้พลังงานแก่หัวใจ ดังนั้นถ้าการเสื่อมของม้าม ย่อมส่งผลต่อการทำงานของหัวใจอย่างแน่นอน จะเห็นได้จากสถิติผู้ที่มีภาวะหัวใจวาย จำนวนผู้ป่วยเหล่านั้น จำนวนมากได้ผ่านการตัดถุงน้ำดีออกไปแล้ว)
ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและภูมิแพ้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการตัดถุงน้ำดี เนื่องจากความอ่อนแอของตับและม้าม ปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อตัดถุงน้ำดีคือ มีผื่นคันที่ผิวหนัง ข้ออักเสบ หรือเลือดจาง ลักษณะผื่นคันที่เกิดขึ้นตามผิวหนัง เนื่องจากการสะสมของบิลิลูบิน(เป็นส่วนประกอบหนึ่งในน้ำดี)ใต้ผิวหนัง และเมื่อบิลิลูบินตกตะกอนตามข้อต่อ จะทำให้ข้อต่ออักเสบ ส่วนภาวะเลือดจางเกิดจากการทำงานของตับและม้ามที่ด้อยลง เนื่องจากตับและม้าม มีหน้าที่ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุแล้ว (เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 100-120 วัน) และเมื่อเม็ดเลือดแดงเก่าถูกทำลาย ร่างกายจะนำสารที่เหลือจากการทำลายไปสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ ดังนั้นเมื่อเม็ดเลือดเก่าถูกทำลายน้อยลง จึงขาดสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
ภาวะน้ำดีคั่งในตับ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่ตัดถุงน้ำดี ซึ่งสามารถบรรเทา โดยกินมะระจีนในตอนเช้า (เพื่อช่วยทำความสะอาดตับ)และ กินคอปติสในช่วงหัวค่ำเพื่อช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี (คอปติสเป็นไม้ดอก ที่ทางอินเดีย ใช้รักษาอาหารไม่ย่อย ส่วนทางแพทย์แผนจีน ใช้เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ)
สูตรหนึ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆในช่วงเช้า คือ หลังตื่นนอน ให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว หลังจากนั้นจึงออกกำลังกาย หลังจากดื่มน้ำแล้ว ให้รอประมาณ 1 ชั่วโมง(เพื่อรอให้ท้องว่าง) จึงค่อยกินมะระจีน แล้วรออีกครึ่งชั่วโมงค่อยรับประทานอาหารเช้า ทั้งนี้การดื่มน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และไต
สำหรับการแพทย์แผนจีนแล้ว สมุนไพรที่ใช้ขจัดนิ่วที่ตับและถุงน้ำดี ได้แก่
bullet
มะระจีน
bullet
Coptis (คอปติส) มีต้นกำเนิดในภูเขาของประเทศจีน เป็นไม้ดอกสีขาเขียว มีหลายพันธุ์ ส่วนที่เรานำมาทำยา คือ ส่วนราก
bullet
Lysimachia หรือ Gold Coin Grass หรือที่คนจีนเรียกว่า jin qian cao เป็นสมุนไพรจีน ที่มีรสชาติหวานและเค็ม รวมอยู่ด้วยกัน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และละลายก้อนนิ่ว ซึ่งสามารถละลายได้ทั้งก้อนนิ่วที่ไต ก้อนนิ่วในถุงน้ำดี
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ที่ตัดถุงน้ำดี ได้แก่ แป้งขัดขาว น้ำตาลขัดขาว กาแฟ ช็อคโกแลต อาหารทอดต่างๆ อาหารมันๆ แต่ควรหันมารับประทานผัก-ผลไม้สด น้ำผัก-ผลไม้คั้นสด พักผ่อนเพียงพอ ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกหายใจลึกๆเป็นประจำ
ตำรับยาไทยในผู้ป่วยที่ตัดถุงน้ำดี....
ยาแก้น้ำดีหย่อน-พิการ เพื่อให้น้ำดีข้นเหนียวน้อยลง สามารถขับออกได้โดยง่าย
ยาปรับลมในกองธาตุ รับประทานเป็นประจำ เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารสะดวกมากขึ้น และป้องกันธาตุพิการ
โดย... บ้านต้นยาแพทย์แผนไทย
Relate topics
- 10 อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกายหลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น
- " ฝึกสมองให้ลดน้ำหนัก "การลดน้ำหนักหรืออดอาหารไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ยิ่งสำหรับบางคนมันเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสอย่างมากสำหรับร่างกายและ จิตใจของตัวเองในการที่จะลดอาหาร ลดไขมัน รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลลอรี่ที่บริโภคเข
- ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพร่ำๆ!!! เตือนภัย 15 โรคติดต่อที่มาพร้อมฤดูฝน!อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หลายคนเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์กันฝน แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อฤดูฝนย่างกรายเข้ามา ก็จะมี 15 เชื้อโรคติดต่อรอโจมตีเราอยู่อย่างเงียบๆ ![
- 'รากบัว' เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สรรพคุณทางยามหาศาลในรากบัวยังพบ “ฟลาโวนอยด์” ซึ่งเป็นสารกลุ่มโฟลีฟีนอล ที่จัดเป็นพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติเด่น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สรรพคุณทางยามากมาย เช่น ลดไข้ บรรเทาอาการไอ อีกด้วย
- ยาก่อนอาหาร ยาหลังอาหาร ลืมกินยาตามเวลา อันตรายหรือไม่ปัญหาที่มักพบเสมอเวลาจะรับประทานยา คือ ต้องรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร และก่อนอาหารนานเท่าไหร่ หลังอาหารกี่นาที ก่อนนอนนานแค่ไหน ถ้าลืมแล้วจะทำอย่างไร ![ คำอธิบายภาพ : findingtherightpill ](http:
- ข้าวโพดต้มสุก มีดีกว่าที่คิด!!!สีเหลืองเข้มอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อ ลูทีน และ ซีเซนทีน ยิ่งนำไปต้มหรือย่าง สารตัวนี้จะยิ่งออกมาเยอะขึ้น!!! ![ คำอธิบายภาพ : IMG20150517112917 ](http://sator4u.com/upload/pics/IMG
- ช็อค! Ending the War on Fat ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษนิตยสารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง TIME ได้เผยถึงบทความเกี่ยวกับ Ending the War on Fat “ความจริงของคอเรสเตอรอล” ที่ทุกๆ คนเข้าใจผิดมาตลอด 60 ปี ที่ว่าคอเรสเตอรอลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจ
- ผัก-ผลไม้ 7 อย่าง! บำรุงสายตา!!!การเลือกรับประทานพืชผักบางชนิดนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นแจ่มแจ๋ว ไม่ร่วงโรยตามอายุได้อีกด้วย ![ คำอธิบายภาพ : foods-for-eye-health-934934 ](http://sator4u.com
- โรคไข้เลือดออกโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหนะของโรค นอกจากเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น และก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ปกครองเวลาเด็กมีไข้ บทความนี
- โรคเก๊าท์ ...การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาถึงแม้ว่าโรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง และในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาภาวะกรดยูริกในเลือดสูงก็ตาม แต่การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาก็ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการรักษาผู้