สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

รับประทาน โสม อย่างไรให้ปลอดภัย ???

by sator4u_team @4 ม.ค. 57 09:05 ( IP : 180...238 ) | Tags : สุขภาพ
photo  , 320x400 pixel , 21,204 bytes.

รับประทาน โสม อย่างไรให้ปลอดภัย ???

ปีใหม่บางท่านอาจได้รับของฝาก ของขวัญเป็นโสม มาดูเรื่องราวของโสมกันนะ ใครๆ ก็คงรู้ถึงสรรพคุณของโสมกันมาแล้ว แต่แม้ว่าจะให้คุณประโยชน์มากแค่ไหน หากใช้ไม่เป็นก็อาจจะก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน...วันนี้เราเลยมีคำแนะนำในการใช้โสมให้ปลอดภัยมาฝากกัน...

ปัจจุบันคนส่วนมากหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และมีการบริโภคผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพหลากหลายชนิด "โสม" เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี แต่ระหว่างการบริโภคโสมนั้นก็มีข้อควรระวังเช่นกัน...

ทั้งนี้คงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อรับประทานโสมสกัดแล้วมีผลอย่างไร ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ในรากโสมเอเชียมีสารเคมีหลายชนิด ใช้บำรุงสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยมีกำลังวังชา และทำให้อายุยืนยาว ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาวะต่างๆ ได้ดี แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ห้ามดื่มน้ำชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนขณะใช้โสม และห้ามรับประทานธาตุเหล็ก ซึ่งมีอยู่ในผักใบเขียวเข้ม เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของโสม ที่สำคัญไม่ควรใช้โสมต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และไม่ควรใช้เกินครั้งละ 1 เดือน

ข้อสงสัยและข้อแนะนำในการทานโสมเกาหลี

โสมเกาหลี “โสมเกาหลี จะได้ผลดีที่สุดถ้ารับประทานในขณะท้องว่าง” โสมเกาหลีสามารถทานได้ทุกเวลา และไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองแก่กระเพาะอาหาร โดยเฉพาะการทานในขณะท้องว่างนั้นจะทำให้สารสกัดถูกดูดซึมได้ง่ายเพราะกระเพาะอาหารว่าง ฉะนั้นจึงขอแนะนำให้ทานโสมในช่วงหลังจากตื่นนอนตอนก่อนอาหารเช้า ช่วงระหว่างมืออาหาร และช่วงก่อนเข้านอน สำหรับปริมาณความต้องการโสมสำหรับแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปและมีวิธีการทานเพื่อให้เหมาะสมกับอาการป่วยของผู่ดื่มก็แตกต่างกันด้วย

ผลของโสมเกาหลีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการปรับตัวของร่างกายมากกว่าการเกิดผลอันใดอันหนึ่ง ซึ่งโสมจะทำให้ร่างกายแข็งแรงในจุดที่ซึ่งระบบต่างๆ ของร่างกายสามารถเอาชนะโรคและการติดเชื้อต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นมีผลในทางควบคุมการปรับสมดุลของระบบต่างๆให้อยู่ในสภาพปกติ เพราะฉะนั้นผลของการทานโสมจึงต้องอาศัยช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้โสมทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์

ผู้ที่ควรรับประทานโสม

ผู้ป่วยต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการรักษาหรือการพักฟื้น ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างไกล้ชิด นักเรียน นิษิต นักศึกษา ที่ต้องใช้สมอง สมาธิ ความจำ ผู้บริหาร หรือผู้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดและไกล้ชิดกับความเครียด นักกีฬา หรือผู้ที่ต้องทำงานหนักใช้พลังงานมาก บุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลบำรุงสุขภาพร่างกายของตนเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับประทานโสม ควรรับประทานโสมเวลาใด?

โสมเกาหลี สามารถดื่มได้ทุกเวลาและไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองแก่กระเพาะอาหาร แต่การดื่มโสมในขณะเวลาที่ท้องว่างนั้นจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสรรพคุณต่างๆ จากโสมได้ง่าย เพราะกระเพาะอาหารว่างทำให้ได้ผลดีมาก ฉะนั้น จึงขอแนะนำให้ดื่มโสมในช่วงท้องว่าง เช่น หลังตื่นนอนตอนเช้าก่อนอาหารเช้า ช่วงระหว่างมื้ออาหาร และตอนก่อนเข้านอน เป็นต้น

ควรรับประทานโสมปริมาณเท่าใด? และนานแค่ไหน? ถึงจะเห็นผล

ปริมาณความต้องการโสมของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพร่างกาย อายุ สถานะทางด้านสุขภาพ เป็นต้น แม้จะมีค่ากลางที่ระบุว่าควรรับประทานโสมในปริมาณคิดเป็นน้ำหนัก 2 กรัมต่อวันและควรรับประทานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน แต่ในกรณีที่ต้องการผลของโสมในระยะสั้น อาทิ ต้องการสรรพคุณในการกระตุ้น หรือ ต้องการขจัดอาการเหนื่อยอ่อนและสูญเสียพละกำลัง ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอ ระหว่างพักฟื้น ขนาดบริโภคอาจต้องเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ซึ่งควรเริ่มบริโภคโสมจากปริมาณที่น้อยๆ แล้วค่อยๆ เพื่อมากขึ้นจนถึงระดับที่เพียงพอสำหรับตนเอง

โสมมีผลข้างเคียงหรือไม่? และมีความปลอดภัยแค่ไหน?

โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีความปลอดภัยมากที่สุด แม้จะบริโภคในปริมาณที่มากหรือบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานานตลอดชั่วอายุขัยก็ตาม ซึ่งผลการทดลองจากทั่วโลกต่างยอมรับเป็นทางเดียวกันว่า “ไม่มีอันตรายเลย” แม้แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐยังยอมรับว่า โสมเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงสามารถจำหน่ายได้อย่างเสรีโดยไม่จำเป็นต้องมีกฎระเบียบควบคุม

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงสามารถรับประทานโสมได้หรือไม่?

โสมมีสรรพคุณที่จะช่วยป้องกันเส้นเลือดคั่งป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดจนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นลดลงและยังช่วยสร้างคอลเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภายหลังรับประทานโสม 1 ชั่วโมงห้ามทำกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้นได้ อาทิ วิ่ง ตีเทนนิส ปีนบันได หรืออยู่ในที่อากาศแออัด นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงอาการโกรธ เศร้าโศกหรืออาการอื่นๆที่จัดเป็นการทำให้เกิดอาการรุนแรงต่างๆ ควรรักษาจิตใจให้สงบนิ่ง หากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทำ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลงดนตรีเบาๆ จากการทดลองของโรงพยาบาลญี่ปุ่น พบว่าโสมช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้ คนที่รัประทานโสมเข้าไปจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสนิท (ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่เหมาะกับ “โสมแดง” ควรรับประทาน “โสมขาว” มากกว่า)

ผู้ป่วยมีปัญหากับความดันโลหิตต่ำ เมื่อรับประทานโสมจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตหรือไม่?

โสมมีสรรพคุณในการช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิต ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตต่ำนั้น โสมจะช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดให้เป็นปกติ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด และเสริมสร้างความแข้งแรงของหัวใจ ทำให้ระบบการฉูบชีดเลือดดีขึ้น ความดันโลหิตจีงเพิ่มขึ้น และร่างกายปรับสู่สภาพสมดุล ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำแนะนำให้รับประทาน “โสมแดง“

โสมจะช่วยลดคอลเลสเตอรอลจริงหรือไม่ ?

หลังรับประทานโสมแล้ว ปริมาณคอลเลสเตอรอลในร่างกายจะไม่เปลียนแปลง แต่จะมีคุณภาพที่ดีขึ้น โสมจะช่วยปรับคุณภาพของตับให้ดีขึ้น และยังช่วยรักษาปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุลได้

โรคเบาหวานรับประทานโสมได้หรือไม่ ?

โสมมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้อย่างมีผล เช่น อาการคอแห้ง อ่อนเพลีย ฯลฯ ก็จะหมดไปหลังรับประทานโสมเพียงวันเดียว โดยเฉพาะโสมคน จะมีส่วนประกอบที่ช่วยรักษาโรคเบาหวานมะเร็ง และเส้นเลือดแข็งตัวได้ดีกว่าโสมชนิดอื่นๆ

อาการของวัยหมดประจำเดือนของผู้หญิง โสมช่วยได้อย่างไร เมื่อหมดประจำเดือน การหลั่งของฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้สรีระของผู้หญิงยิ่งมีแนวโน้มใกล้เคียงกับผู้ชายมากขึ้น เมื่อสรีระเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทำให้ทางด้านกายและใจปรับตัวไม่ทัน ทำให้การทำงานของระบบประสาทแปรปรวน และแสดงอกมาในรูปแบบของอาการต่างๆ อย่างที่กล่าวมา จากการทำวิจัยของนักวิชาการมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นที่สำรวจจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนทั่วประเทศ และ ทำการวิจัยสรรพคุณของโสมที่ช่วยระงับและบรรเทาอาการต่างๆของวัยหมดประจำเดือน พบว่า โสมมีประสทธิภาพในการลดอาการ อาทิ ปวดหัว เวียนหัว ปวดเอว กล้ามเนื้อและข้อต่อแข็ง อ่อนเพลีย หายใจขัด ตาพร่า มือและเท้าเย็น ได้ดี ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและคนที่มีอาการดังกล่าว เมื่อรับประทานโสมก็จะมีอาการดีขึ้น

เด็กรับประทานโสมได้หรือไม่?

โสมมีสรรพคุณช่วยการหมุนเวียนของเลือดแดง ปรับความสมดุลของระบบประสาท กระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มภูมิต้านทานของโรค และปรับความสมดุลของเชื้อโรคช่วยย่อยอาหารที่อยู่ในลำไส้ ดังนัน เด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต เมื่อรัประทานโสมจะช่วยเรื่องการเติบโตเกิดความสมดุล โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นไข้หวัดง่าย ลำไส้ทำงานไม่ดี ร่างกายอ่อนแอ ยิ่งควรต้องรับประทานโสมเป็นประจำ

หญิงตั้งครรภ์ทานโสมได้หรือไม่?

มีหลายคนสงสัยว่าหญิงตั้งครรภ์ทานโสมได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ เพราะนอกจากโสมจะเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ไม่ก่อผลต่อสุขภาพทารกแล้วยังช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและรักษาโรคโลหิตจาง มีแต่ผลดีต่อแม่และทารก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารและยาของหญิงมีครรภ์ก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และข้อสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และการบริโภคควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์

อาหารหรือยาที่มีประโยชน์นั้น หากใช้เกินความจำเป็นหรือไม่ระมัดระวัง ก็อาจกลายเป็นโทษที่ร้ายแรงได้เช่นกัน...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ


ปีใหม่บางท่านอาจได้รับของฝาก ของขวัญเป็นโสม มาดูเรื่องราวของโสมกันนะ ใครๆ ก็คงรู้ถึงสรรพคุณของโสมกันมาแล้ว แต่แม้ว่าจะให้คุณประโยชน์มากแค่ไหน หากใช้ไม่เป็นก็อาจจะก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน...วันนี้เราเลยมีคำแนะนำในการใช้โสมให้ปลอดภัยมาฝากกัน...

ปัจจุบันคนส่วนมากหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และมีการบริโภคผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพหลากหลายชนิด "โสม" เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี แต่ระหว่างการบริโภคโสมนั้นก็มีข้อควรระวังเช่นกัน...

ทั้งนี้คงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อรับประทานโสมสกัดแล้วมีผลอย่างไร ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ในรากโสมเอเชียมีสารเคมีหลายชนิด ใช้บำรุงสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยมีกำลังวังชา และทำให้อายุยืนยาว ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาวะต่างๆ ได้ดี แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ห้ามดื่มน้ำชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนขณะใช้โสม และห้ามรับประทานธาตุเหล็ก ซึ่งมีอยู่ในผักใบเขียวเข้ม เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของโสม ที่สำคัญไม่ควรใช้โสมต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และไม่ควรใช้เกินครั้งละ 1 เดือน

ข้อสงสัยและข้อแนะนำในการทานโสมเกาหลี

โสมเกาหลี “โสมเกาหลี จะได้ผลดีที่สุดถ้ารับประทานในขณะท้องว่าง” โสมเกาหลีสามารถทานได้ทุกเวลา และไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองแก่กระเพาะอาหาร โดยเฉพาะการทานในขณะท้องว่างนั้นจะทำให้สารสกัดถูกดูดซึมได้ง่ายเพราะกระเพาะอาหารว่าง ฉะนั้นจึงขอแนะนำให้ทานโสมในช่วงหลังจากตื่นนอนตอนก่อนอาหารเช้า ช่วงระหว่างมืออาหาร และช่วงก่อนเข้านอน สำหรับปริมาณความต้องการโสมสำหรับแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปและมีวิธีการทานเพื่อให้เหมาะสมกับอาการป่วยของผู่ดื่มก็แตกต่างกันด้วย

ผลของโสมเกาหลีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการปรับตัวของร่างกายมากกว่าการเกิดผลอันใดอันหนึ่ง ซึ่งโสมจะทำให้ร่างกายแข็งแรงในจุดที่ซึ่งระบบต่างๆ ของร่างกายสามารถเอาชนะโรคและการติดเชื้อต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นมีผลในทางควบคุมการปรับสมดุลของระบบต่างๆให้อยู่ในสภาพปกติ เพราะฉะนั้นผลของการทานโสมจึงต้องอาศัยช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้โสมทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์

ผู้ที่ควรรับประทานโสม

ผู้ป่วยต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการรักษาหรือการพักฟื้น ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างไกล้ชิด นักเรียน นิษิต นักศึกษา ที่ต้องใช้สมอง สมาธิ ความจำ ผู้บริหาร หรือผู้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดและไกล้ชิดกับความเครียด นักกีฬา หรือผู้ที่ต้องทำงานหนักใช้พลังงานมาก บุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลบำรุงสุขภาพร่างกายของตนเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับประทานโสม ควรรับประทานโสมเวลาใด?

โสมเกาหลี สามารถดื่มได้ทุกเวลาและไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองแก่กระเพาะอาหาร แต่การดื่มโสมในขณะเวลาที่ท้องว่างนั้นจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารสรรพคุณต่างๆ จากโสมได้ง่าย เพราะกระเพาะอาหารว่างทำให้ได้ผลดีมาก ฉะนั้น จึงขอแนะนำให้ดื่มโสมในช่วงท้องว่าง เช่น หลังตื่นนอนตอนเช้าก่อนอาหารเช้า ช่วงระหว่างมื้ออาหาร และตอนก่อนเข้านอน เป็นต้น

ควรรับประทานโสมปริมาณเท่าใด? และนานแค่ไหน? ถึงจะเห็นผล

ปริมาณความต้องการโสมของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพร่างกาย อายุ สถานะทางด้านสุขภาพ เป็นต้น แม้จะมีค่ากลางที่ระบุว่าควรรับประทานโสมในปริมาณคิดเป็นน้ำหนัก 2 กรัมต่อวันและควรรับประทานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน แต่ในกรณีที่ต้องการผลของโสมในระยะสั้น อาทิ ต้องการสรรพคุณในการกระตุ้น หรือ ต้องการขจัดอาการเหนื่อยอ่อนและสูญเสียพละกำลัง ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอ ระหว่างพักฟื้น ขนาดบริโภคอาจต้องเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ซึ่งควรเริ่มบริโภคโสมจากปริมาณที่น้อยๆ แล้วค่อยๆ เพื่อมากขึ้นจนถึงระดับที่เพียงพอสำหรับตนเอง

โสมมีผลข้างเคียงหรือไม่? และมีความปลอดภัยแค่ไหน?

โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีความปลอดภัยมากที่สุด แม้จะบริโภคในปริมาณที่มากหรือบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานานตลอดชั่วอายุขัยก็ตาม ซึ่งผลการทดลองจากทั่วโลกต่างยอมรับเป็นทางเดียวกันว่า “ไม่มีอันตรายเลย” แม้แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐยังยอมรับว่า โสมเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงสามารถจำหน่ายได้อย่างเสรีโดยไม่จำเป็นต้องมีกฎระเบียบควบคุม

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงสามารถรับประทานโสมได้หรือไม่?

โสมมีสรรพคุณที่จะช่วยป้องกันเส้นเลือดคั่งป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดจนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นลดลงและยังช่วยสร้างคอลเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภายหลังรับประทานโสม 1 ชั่วโมงห้ามทำกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้นได้ อาทิ วิ่ง ตีเทนนิส ปีนบันได หรืออยู่ในที่อากาศแออัด นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงอาการโกรธ เศร้าโศกหรืออาการอื่นๆที่จัดเป็นการทำให้เกิดอาการรุนแรงต่างๆ ควรรักษาจิตใจให้สงบนิ่ง หากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายทำ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลงดนตรีเบาๆ จากการทดลองของโรงพยาบาลญี่ปุ่น พบว่าโสมช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้ คนที่รัประทานโสมเข้าไปจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสนิท (ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่เหมาะกับ “โสมแดง” ควรรับประทาน “โสมขาว” มากกว่า)

ผู้ป่วยมีปัญหากับความดันโลหิตต่ำ เมื่อรับประทานโสมจะช่วยเพิ่มความดันโลหิตหรือไม่?

โสมมีสรรพคุณในการช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิต ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตต่ำนั้น โสมจะช่วยปรับการหมุนเวียนของเลือดให้เป็นปกติ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด และเสริมสร้างความแข้งแรงของหัวใจ ทำให้ระบบการฉูบชีดเลือดดีขึ้น ความดันโลหิตจีงเพิ่มขึ้น และร่างกายปรับสู่สภาพสมดุล ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำแนะนำให้รับประทาน “โสมแดง“

โสมจะช่วยลดคอลเลสเตอรอลจริงหรือไม่ ?

หลังรับประทานโสมแล้ว ปริมาณคอลเลสเตอรอลในร่างกายจะไม่เปลียนแปลง แต่จะมีคุณภาพที่ดีขึ้น โสมจะช่วยปรับคุณภาพของตับให้ดีขึ้น และยังช่วยรักษาปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุลได้

โรคเบาหวานรับประทานโสมได้หรือไม่ ?

โสมมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้อย่างมีผล เช่น อาการคอแห้ง อ่อนเพลีย ฯลฯ ก็จะหมดไปหลังรับประทานโสมเพียงวันเดียว โดยเฉพาะโสมคน จะมีส่วนประกอบที่ช่วยรักษาโรคเบาหวานมะเร็ง และเส้นเลือดแข็งตัวได้ดีกว่าโสมชนิดอื่นๆ

อาการของวัยหมดประจำเดือนของผู้หญิง โสมช่วยได้อย่างไร เมื่อหมดประจำเดือน การหลั่งของฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้สรีระของผู้หญิงยิ่งมีแนวโน้มใกล้เคียงกับผู้ชายมากขึ้น เมื่อสรีระเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทำให้ทางด้านกายและใจปรับตัวไม่ทัน ทำให้การทำงานของระบบประสาทแปรปรวน และแสดงอกมาในรูปแบบของอาการต่างๆ อย่างที่กล่าวมา จากการทำวิจัยของนักวิชาการมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นที่สำรวจจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนทั่วประเทศ และ ทำการวิจัยสรรพคุณของโสมที่ช่วยระงับและบรรเทาอาการต่างๆของวัยหมดประจำเดือน พบว่า โสมมีประสทธิภาพในการลดอาการ อาทิ ปวดหัว เวียนหัว ปวดเอว กล้ามเนื้อและข้อต่อแข็ง อ่อนเพลีย หายใจขัด ตาพร่า มือและเท้าเย็น ได้ดี ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและคนที่มีอาการดังกล่าว เมื่อรับประทานโสมก็จะมีอาการดีขึ้น

เด็กรับประทานโสมได้หรือไม่?

โสมมีสรรพคุณช่วยการหมุนเวียนของเลือดแดง ปรับความสมดุลของระบบประสาท กระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มภูมิต้านทานของโรค และปรับความสมดุลของเชื้อโรคช่วยย่อยอาหารที่อยู่ในลำไส้ ดังนัน เด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต เมื่อรัประทานโสมจะช่วยเรื่องการเติบโตเกิดความสมดุล โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นไข้หวัดง่าย ลำไส้ทำงานไม่ดี ร่างกายอ่อนแอ ยิ่งควรต้องรับประทานโสมเป็นประจำ

หญิงตั้งครรภ์ทานโสมได้หรือไม่?

มีหลายคนสงสัยว่าหญิงตั้งครรภ์ทานโสมได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ เพราะนอกจากโสมจะเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ไม่ก่อผลต่อสุขภาพทารกแล้วยังช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและรักษาโรคโลหิตจาง มีแต่ผลดีต่อแม่และทารก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารและยาของหญิงมีครรภ์ก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และข้อสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และการบริโภคควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์

อาหารหรือยาที่มีประโยชน์นั้น หากใช้เกินความจำเป็นหรือไม่ระมัดระวัง ก็อาจกลายเป็นโทษที่ร้ายแรงได้เช่นกัน...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ


Cr. // koreanginsengs.com

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 1304
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง