พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 "คุก 3 เดือน - ปรับ 100,000 จริงหรือ ?
"ปรับ 10,000 – 100,000 บาท แต่หากการกระทำเพื่อการค้า จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน – 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หัวใจหลักของกฎหมายลิขสิทธิ์อยู่ที่การห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณะ แต่ก็มีข้อยกเว้นคือหากไม่ใช่การทำเพื่อการค้า มีการอ้างอิงที่มาก็สามารถทำได้ ภายใต้ข้อยกเว้นคือต้องทำให้ผลประโยชน์ของเข้าของลิขสิทธิ์ลดลง หรือกระทบกระเทือนถึงสิทธิ์ของเจ้าของ"
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 โดยเพิ่มเติมเนื้อหา "ข้อมูลการบริหารสิทธิ" (Rights Management Information) เป็นข้อมูลบ่งชี้ในตัวผลงานอันมีลิขสิทธิ์ และ "มาตรการทางเทคโนโลยี" (Technological Measures) คือเทคโนโลยีให้ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เช่น การเข้ารหัสหรือถอดรหัส การตรวจสอบสิทธิใช้งาน) ให้มีผลคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผลจากการแก้กฎหมายครั้งนี้ทำให้ผู้ใดทำการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ หลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี หรือให้บริการเพื่อก่อให้เกิดการหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี ถือว่าเป็นการละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ (มาตรา 53/1 53/4) และถ้าใครนำงานที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิไปจำหน่ายหรือเผยแพร่ ให้ถือว่าเป็นการละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิด้วยเช่นกัน (มาตรา 53/2)
สำหรับกรณีที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ ทั้งผู้ให้บริการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูล ถ้าผู้ให้บริการไม่ได้เป็นผู้ควบคุม ริเริ่ม หรือสั่งการให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการกระทำที่อ้างว่าละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดําเนินการตามคําสั่งศาล (มาตรา 32/3)
ในวันเดียวกัน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเช่นกัน โดยเพิ่มเติมเนื้อหาให้การบันทึกเสียงหรือภาพในโรงภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และให้ทําซ้ำหรือดัดแปลงเพื่อประโยชน์ของคนพิการ ที่ไม่ได้เป็นการทำเพื่อหาผลกำไร ไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ได้
ทั้งนี้ ฉบับที่ 2 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ส่วนฉบับที่ 3 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้กล่าวถึง พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง จะมีผลบังคับใช้ หลังจากที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 132 ตอนที่ 6 ก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน “Digital Economy” การแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เว็บไซต์ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตปลอดจากงานละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะกฎหมายฉบับนี้ได้ดึงให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ในกฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดถึง “ข้อมูลการบริหารสิทธิ” ซึ่งเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ถึงผู้สร้างสรรค์ หรือข้อมูลเงื่อนไขการใช้สิทธิในงานนั้น ซึ่งปรากฏได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชื่อจิตรกรหรือชื่อเจ้าของที่ติดอยู่ที่ภาพ หรือแม้กระทั่งลายน้ำที่แฝงอยู่ หากมีการลบหรือเปลี่ยนแปลง ก็จะถือว่าเป็นความผิดฐานใหม่คือ ละเมิดข้อมูลบริหารสิทธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลก Social media ที่มีการแชร์รูปภาพ หรือ คลิปวีดีโอต่างๆได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว หากมีการนำรูปภาพที่มีการลบลายน้ำนั้น ไปแชร์ลง Social media ต่างๆ ผู้ที่แชร์นั้น นอกจากจะผิดฐานเผยแพร่ลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังจะผิดฐานลบข้อมูลบริหารสิทธิอีกฐานหนึ่งด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการอ้างอิงเจ้าของภาพนั้นๆ ก็ตามเพราะเป็นการนำภาพของผู้อื่นมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
“มาตรการทางเทคโนโลยี” เป็นอีกคำหนึ่งที่ปรากฏในกฎหมายฉบับนี้ “มาตรการทางเทคโนโลยี” หรือ เทคโนโลยีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ในยุคดิจิทัลนำมาป้องกันงานของตน เช่น การตั้งรหัสในการเข้ารับฟังเพลงต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต คนไหนอยากฟังเพลงหรือดาวน์โหลดเพลงก็ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้รหัสในการฟังหรือดาวน์โหลดเพลงนั้นๆแต่ก็จะมีคนบางกลุ่มที่ไม่อยากเสียเงิน แต่ใช้วิธีการแฮ็ค หรือหลบเลี่ยงมาตรการนั้นๆเข้าไปฟังเพลงหรือดาวน์โหลดฟรีๆ ก็จะถือเป็นความผิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกฐานหนึ่ง คือ ละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ การกระทำความผิดใหม่ ทั้งสองนี้ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท หากการกระทำเพื่อการค้า จะโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน – 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หัวใจหลักของกฎหมายลิขสิทธิ์อยู่ที่การห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณะ แต่ก็มีข้อยกเว้นคือหากไม่ใช่การทำเพื่อการค้า มีการอ้างอิงที่มาก็สามารถทำได้ ภายใต้ข้อยกเว้นคือต้องทำให้ผลประโยชน์ของเข้าของลิขสิทธิ์ลดลง หรือกระทบกระเทือนถึงสิทธิ์ของเจ้าของ
สำหรับการนำข่าวจากหนังสือพิมพ์ไปเล่าในรายการเล่าข่าวนั้นหากเป็นเพียงการนำเอาข้อเท็จจริงไปนำเสนอในลีลาของตัวเองถือว่าไม่มีความผิดแต่ก็จะต้องไม่ทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์ลดลง เนื่องจากเป็นผลประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนกรณีการส่งต่อรูปดอกไม้ต่างๆ ในแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งเป็นรูปที่มีลิขสิทธิ์ถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม เป็นความผิดที่สามารถยอมความได้
10 ข้อ! ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์!!! ...แล้วอิทำพรื่อดีล่ะ ?
กรมทรัพย์สินทางปัญญาไขข้อข้องใจกฎหมายลิขสิทธิ์ใหม่ เปิดคำถาม คำตอบ 10 ข้อ อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ หวังสกัดความปั่นป่วนในโลกโซเชียล หลังทั้งโพสต์ ทั้งแชร์กระหน่ำ และยังเป็นโอกาสดีที่ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องลิขสิทธิ์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และป้องกันความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอีกด้วย โดย 10 คำถาม คำตอบ มีรายละเอียดดังนี้
1.) ลิขสิทธิ์คุ้มครองอะไรบ้าง มีอะไรที่เราสามารถเอามาใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือไม่ ?
ลิขสิทธิ์คุ้มครองงานสร้างสรรค์ เช่น บทความ หนังสือ ซอฟต์แวร์ เพลง รูปภาพ ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพข่าว ภาพยนตร์ ละคร เป็นต้น แต่ข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งข่าวประจำวันทั่วไปในส่วนของข้อเท็จจริงที่รายงานเพียงแค่ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ไม่เข้าข่ายงานอันมีลิขสิทธิ์ เราจึงสามารถเอามาใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
2.) เราสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือเพลงจากอินเตอร์เน็ตมาฟังและแชร์ต่อให้เพื่อนได้ไหม ?
การดาวน์โหลดถือเป็นการทำซ้ำที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์กรณีเว็บไซต์ลิขสิทธิ์ที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้ดาวน์โหลดได้ฟรีก็สามารถดาวน์โหลดได้แต่ไม่สามารถแชร์ต่อได้ส่วนกรณีเว็บไซต์ที่ให้บริการโดยเก็บค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด เมื่อผู้ใช้เสียค่าบริการแล้ว จึงจะดาวน์โหลดมาเพื่อรับชมหรือรับฟังได้ แต่ไม่สามารถแชร์ต่อได้เช่นกัน
3.) การก๊อปปี้บทความหรือรูปภาพจากเว็บไซต์มาใส่เฟซบุ๊กของเราหรือแชร์ต่อทางไลน์ ทำได้หรือไม่ ?
บทความหรือรูปภาพเป็นงานลิขสิทธิ์ การนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการก๊อปปี้หรือแชร์ต่อ ควรพิจารณาประกอบกับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้เนื้อหาของเว็บไซต์นั้นๆ ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ถ้านำมาใช้ในปริมาณน้อย เช่น 1 ถึง 2 ภาพที่ไม่ได้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ (economic value) อย่างมีนัยสำคัญและไม่ได้เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไรโดยมีการแสดงที่มาของบทความหรือรูปภาพก็อาจถือว่าเป็นการใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม(fairuse)ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
4.) การนำงานมาใช้และเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตผู้สร้างสรรค์เพียงพอหรือไม่ที่จะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ?
การนำงานมาใช้และเผยแพร่ต้องอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตเสมอจึงจะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และต้องเป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์รวมทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควรด้วย
5.) การแฮ็กหรือหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงงานลิขสิทธิ์ เช่น รูปภาพหรือคลิปวีดิโอบนอินเทอร์เน็ต และลบลายน้ำดิจิทัลออก และปรับแต่งรูปภาพหรือคลิปวีดิโอและโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของเรา มีความผิดอย่างไร และมีโทษเท่าใด ?
การแฮ็กหรือหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยี เพื่อเข้าถึงงานลิขสิทธิ์โดยรู้อยู่แล้วว่าการกระทำดังกล่าวอาจจูงใจ หรือก่อให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิของนักแสดง ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี และหากทำการลบลายน้ำดิจิทัลออก โดยรู้อยู่แล้วว่าการกระทำนั้นอาจจูงใจให้เกิดก่อให้เกิดให้ความสะดวกหรือปกปิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ
ส่วนการปรับแต่งรูปภาพหรือคลิปวีดิโอของผู้อื่น และโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์นั้นมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยการดัดแปลงและเผยแพร่งานลิขสิทธิ์นั้นต่อสาธารณชน
โทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์ปรับ20,000บาทถึง200,000บาท เพื่อการค้า 100,000 ถึง 800,000 บาท หรือจำคุก 6 เดือนถึง 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
โทษฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิและมาตรการทางเทคโนโลยี ปรับ 10,000 บาทถึง 100,000 บาท เพื่อการค้า ปรับ 50,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุก 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
6.) การก๊อปปี้ภาพหรือบทความจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ในลักษณะอย่างไรจึงจะต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ และอย่างไรจึงไม่ต้องขออนุญาต ?
กรณีที่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น การนำภาพหรือบทความนั้นไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องเป็นการใช้ในปริมาณพอสมควร เช่น นำมาใช้ในการวิจัยหรือศึกษางานซึ่งไม่ใช่เพื่อหากำไร ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท ใช้ในการติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ใช้ในการเสนอข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น และใช้ในการเรียนการสอน เป็นต้น
7.) การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทูปมาไว้ที่บล็อกของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ?
การทำบล็อกแล้ว embed โพสต์ของยูทูปมาไว้ที่บล็อกของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำซ้ำงานลิขสิทธิ์ในบล็อก และถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งสิทธิในการทำซ้ำและสิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชน เป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์
ในกรณีของการแชร์ลิงค์ (link) เพื่อแนะนำและบอกที่มาของเว็บไซต์ ก็อาจไม่เข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์
8.) หากซื้อซีดีเพลง หนังสือ หรือรูปภาพมาอย่างถูกต้อง เมื่อใช้แล้วจะนำออกขายต่อได้หรือไม่ กรณีซื้อโดยดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ ภาพยนตร์ เพลงจากเว็บไซต์ จะขายต่อได้หรือไม่ ?
การซื้อซีดีเพลงหรือรูปภาพ ผู้ซื้อได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในแผ่นซีดีหรือรูปภาพนั้น จึงสามารถนำออกขายต่อได้ แต่ผู้ซื้อไม่สามารถทำสำเนางานเพื่อนำออกขายได้ เนื่องจากสิทธิในการทำซ้ำและการนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ สำหรับกรณีการซื้อมาโดยวิธีการดาวน์โหลดนั้น เป็นการที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้ใช้สิทธิ (License) ดังนั้น ไม่สามารถนำไฟล์งานดังกล่าวออกขายต่อได้
9.) ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต (ISPs) เช่น YouTube Google True DTAC จะมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยหรือไม่ หากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตอัพโหลดหนังหรือเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ ?
ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต (ISPs) ไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์หากให้ความร่วมมือกับเจ้าของลิขสิทธิ์ในการนำงานละเมิดออกจากเว็บไซต์ตามคำสั่งศาล
10.) จะทำอย่างไรเมื่อมีคนนำงานลิขสิทธิ์ของเราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ?
เมื่อพบว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น เจ้าของลิขสิทธิ์อาจแจ้งเตือนให้ผู้กระทำละเมิดหยุดการกระทำดังกล่าว หรือเจ้าของลิขสิทธิ์อาจไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาล หรืออาจขอให้มีการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทโดยใช้บริการไกล่เกลี่ยของกรมทรัพย์สินทางปัญญาหรือศาล
สรุปว่า จากกรณีข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ถือเป็นข้อดีที่ทำให้คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ มีจิตสำนึกว่างานที่จะนำไปใช้มีเจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ และมีการคิดก่อนแชร์ คิดก่อนใช้ ซึ่งกรมฯ ขอแนะนำว่าถ้าไม่ชัวร์ ไม่แชร์จะดีกว่า
ขอขอบคุณ คลิปวีดีโอจาก @ iT24Hrs
อ้างอิง @ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 , พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558
Relate topics
- ประเพญีสงกรานต์เมืองปักษ์ใต้หากปีใดเป็นปีที่มีเดือนแปด 2 ครั้ง ให้ถือว่าวันว่าง (วันเนา) มีสองวัน ดังนั้น วันที่ 13 เมษายน จึงเป็นวันมหาสงกรานต์หรือวันส่งเจ้าเมืองเก่า วันที่ 14 - 15 เมษายน เป็นวันว่าง และวันที่ 16 เมษายน เป็
- ชะงัด!!! ถอนพิษตะขาบและแมงป่อง สุดยอดภูมิปัญญาไทยโบราณตะขาบ (centipede) จัดอยู่ในไฟลัมอาร์โธรพอด เป็นสัตว์กินเนื้อที่ชอบออกหากินในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันมักหลบตามกองไม้ เศษใบไม้หรือตามเศษปะรักหักพังต่างๆ เหยื่อที่เป็นอาหารจะเ
- 35 เรื่อง "ทุเรียน" ที่อยากให้คุณได้รู้ !!!“ ทุเรียน ” ได้รับขนานนามว่า “King of Fruits" หรือ “ราชาแห่งผลไม้” ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของไทยและเทศ เพราะมากมายด้วยประโ
- 10 เหตุผล! ทำไมราคายางพาราจึงตกจาก 180 ถึง 40 บาท ?? อ่อๆ มันเป็นพันนี้นี่เอง !!!ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ราคายางไทยเคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยราคา 174.44 บาทต่อกิโลกรัม แต่หลังจากนั้นกลับมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2557 ราคายางดิ่งลงเหลือ 53.63 บาทต่อกิโล
- โรคเมอร์ส (MERS) Middle East Respiratory syndromeโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome: MERS) หรือ โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนา (Coronavirus) ที่มีการศึกษาและรู้จักมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 เป็นตระกูลไวรัสที
- “ทุเรียน” ที่ได้รับขนานนามว่า “King of fruits" หรือ “ราชาแห่งผลไม้” มีดีกว่าที่คิด!!!เมืองไทยของเราไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ก็มีของอร่อยๆ มาให้รับประทานกันได้ไม่ขาดปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ทุเรียน” ที่ได้รับขนานนามว่า “King of fruits" หรือ “ราชาแห่งผลไม้” เป็นที่นิยมของคนไทยตลอดกาลเลยทีเดียว
- โอ้ววแม่จ้าว! สูงที่สุดในโลก! "น้ำตกนางฟ้า" แห่งเวเนซูเอลา สูงกว่าไนแองการา 18 เท่า!!!เชื่อกันว่า น้ำที่ไหลลงมาจาก "น้ำตกนางฟ้า" แห่งนี้ จะไม่สามารถตกถึงพื้นได้ ด้วยเพราะความสูงของน้ำตกที่มีมากจนทำให้น้ำที่ตกลงมานั้นกลายเป็นหมอกไปซะก่อน จึงทำให้พื้นที่บริเวณป่าโดยรอบน้ำตกแห่งนี้ ถู
- มารู้จัก! TYPHOON เรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากรัสเซียกันเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกลำนี้ที่ชื่อว่า Typhoon หรือ The Project 941 ในภาษารัสเซียเรียกว่า Akula ซึ่งแปลว่าฉลามครับ เรือดำน้ำใด้ฝุ่นนี้เป็นเรือดำน้ำติดขีปนาวุธพลังงานนิวเคลียร์ ที่ถูกสร้างขึ้
- ผู้นำที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ผู้นำ (Leader) เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งต่อความสำเร็จขององค์การทั้งนี้ เพราะผู้นำมีภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบโดยตรงที่จะต้องวางแผนสั่งการดูแล และควบคุมให้บุคลากรขององ
- คำแนะนำในการเขียนเลขหมายโทรศัพท์ ให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากลสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนสับสนเวลาจะเขียนได้อย่างไม่น่าเชื่อก็คือ "หมายเลขโทรศัพท์" วันนี้เราจะไปเรียนรู้หลักการเขียนเลขหมายโทรศัพท์บน เอกสารสำคัญ เช่น นามบัตร โบชัวร์ หรือสื่อต่างๆ ว่าควรจะเขียนอย่าง