สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ภาวะเวียนหัว บ้านหมุน โรคพบบ่อย ที่บางคนหายยากเพราะหวังแต่หายารักษา ไม่รู้เคล็ดลับรักษามัน

by sator4u_team @23 ม.ค. 58 12:33 ( IP : 1...11 ) | Tags : สุขภาพ
photo  , 655x440 pixel , 47,204 bytes.

อวัยวะที่ ฆ้อน ทั่ง โกลน กระดูกขยายเสียงในรูปแบบคานงัด กระแทกใส่ตัวรับเสียงก้นหอยเพื่อรับเสียงทุ้มไปยังเสียงแหลม ก็เลยมี วงแหวน (semicircular) ไว้ให้หมุนสามแกน X Y และ Z ที่เป็นสีฟ้าในภาพ รับรู้การหมุนตามแกนต่าง ๆ ของหัว พระเจ้าได้สร้างอวัยวะที่มีความไวต่อการหมุนในสามแกนได้อย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว


A.เกริ่น ภาวะเวียนหัว ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า Dizziness ทางการแพทย์จะเรียกว่า Vertigo คืออาการ การเวียน หมุน ส่ายโคลงเคลง หรือความรู้สึกเหมือนพื้นยวบยาบ หรือ ตัวเองหมุนเคว้งไปรอบ ๆ

  • อาการร่วม ก็จะมีอาการคล้ายคนเมารถคือ คลื่นไส้หรืออาเจียน ไวต่อเสียงและแสง

  • กรณีตัวลอย มึนหัว หวิว แต่ไม่มีหมุน เราจะไม่จัดว่าเป็นภาวะนี้นะครับ

  • มนุษย์เราจะมีศูนย์รับการส่าย หมุน สะบัด หันหัว หันตัว เพื่อ ให้เกิดการสมดุลย์ในการเดินแกว่งแขน และ กรอกตาแบบอัตโนมัติ โดยรับรู้ผ่านเส้นประสาทฝอยเล็ก ๆ ที่มีเม็ดหินปูนห้อยตรงปลาย รับรู้การสะบัดและก้มเงยในหู ด้วยอวัยวะใกล้กับส่วนที่รับเสียง (ในเมื่อเสียงกระเพื่อมน้ำ ให้เกิดเสียง การหมุนส่าย ก็จะมีวง และ ลูกตุ้มหินปูนสะบัด เพื่อรับรู้ท่าทาง ในอวัยวะใกล้ ๆ กันไปด้วยเลย) ดูรูปด้านล่างประกอบครับ

  • โรคนี้อาจเป็นการโคลงเคลงธรรมดา โรคหู หรือ ไปเป็นโรคสมองอันตรายไปเลยก็ได้

  • โรคนี้แพทย์จะเรียกชื่อไปต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น ภาวะเวียนหัว ภาวะบ้านหมุน ภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน ภาวะเสียสมดุลการทรงตัว

  • บางแพทย์ จะเรียกแยกตามอวัยวะหู เช่น โรคหูชั้นกลาง หินปูนในหูผิดปกติ ภาวะเส้นเลือดเลี้ยงหูส่วนกลางผิดปกติ (บางคนใช้คำว่าขาดเลือด) หรือ เรียกตามภาวะสมอง เช่นโรคของสมองกลีบเล็ก (cerebellum)

B. โรคที่ระวังมาด้วยเวียน อาจทำให้หมอรักษาผิดไป มีสองโรคดังนี้ครับ

: อย่างแรกคือ ภาวะหน้ามืดจาก ช๊อค จาก โรคติดเชื้อ โรคหัวใจ หรือ การเสียเลือด ก็มาคล้าย ๆ เวียนหัวได้ พวกนี้จะมีประวัติกินยาแอสไฟริน ยาแก้ปวดข้อ ปวดกระดูก มีถ่ายดำ ถ่ายมีกลิ่นหมัก หรืออาจเสียเลือดจากประจำเดือนมาก หรือ แท้งนอกมดลูกมีเลือดออกในท้อง หรือ ภาวะท้องเสียรุนแรง การแก้ไขไม่ใช่มัวแต่กินยาแก้เวียนหัว กลับต้องรีบห้ามเลือด พิจารณาส่องกล้อง

: อีกโรคคือภาวะเกลือแร่โซเดียมต่ำ พวกนี้จะให้ประวัติกินยารักษาความดันชนิดขับปัสสาวะ ซึ่งอาจรักษาได้ผลดีอยู่เดิมเป็นปี ๆ ก็ได้ อยู่ ๆ กินอาหารผิด หรือ เกลือแร่ต่ำสะสมก็เวียนหัวมาได้เช่นกัน ภาวะนี้ต้องแก้ด้วยน้ำเกลือ

C. เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นโรคของหู ไม่ใช่สมอง
- กระตุ้นให้เป็นมากเวลาหมุนหัว ก้มเงย ไอ หรือ เบ่ง - อาการที่เกิดจากหูมักรุนแรงมากกว่าอาการจากสมอง ตรงข้ามกับที่ทุกคนเข้าใจ และ - หายเร็วเวลาได้ยาดี ๆ หรือ รักษาเร็ว - มีอาการทางหูเช่นมีเสียง หรือ หูได้ยินน้อยลงในบางคน

D. อาการจากสมอง จะมีปัญหา - เวียนไม่มาก (ผิดกับที่คนทั่วไปเข้าใจ) และ - สัมพันธ์กับท่าทางไม่มากนัก - การกำหนดจุดแตะ หรือ การหมุนมือ หาตำแหน่งเท้าเสียไป คือเดินแบบต่อปลายเท้าไม่ได้ - มีอาการอื่นของระบบประสาทร่วมด้วย ดังที่จะกล่าวถึงอาการเตือนให้รีบมาพบแพทย์ด้านล่าง - หรือมีความเสี่ยงโรคอัมพาต - เวลาตรวจร่างกาย จะมีการตรวจเฉพาะที่ทำให้แพทย์ทราบได้ว่า เป็นอาการจากสมองมากกว่าจากหู - กรณีสงสัยอาการทางสมองข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าว ให้รีบพบแพทย์ด่วน เพราะถ้ารักษาช้าอาจถึงอัมพาต หรือ เสียชีวิตได้

E. E.1 ขอเน้นย้ำ อาการที่ต้องพบแพทย์ให้เร็ว ถ้าท่านมีความเสียงโรคเส้นเลือดสมองได้แก่ 1. อายุมาก 2. ไขมันสูง 3. เป็นโรคเบาหวาน 4. โรคอ้วน สูบบุหรี่ 5. เคยเป็นอัมพาต หรือ อัมพฤกษ์มาก่อนนี้ 6. มีโรคหัวใจร่วมด้วย

E.2 หรือมีอาการของระบบสมอง เส้นประสาท ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ 1. ปวดหัว แบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน หรือ ปวดหัวรุนแรงมาก 2. มีไข้มากกว่า 38 องศาเซลเซียส (38ºC) 3. ตามองเห็นเป็นสองภาพ 4. อาการหน้าชา 5. หรือหน้าเบี้ยว 6. อาการอ่อนแรงแขนขา 7. ไม่สามารถเดินได้ หรือ เดินเองไม่ได้ 8. ล้ม หรือ เป็นลม 9. อาการแน่นอก 10. อาการอาเจียนตลอดเวลาไม่หยุด

F. การรักษาภาวะเวียนหัว ต้องรักษาตามต้นเหตุ

F.1 ถ้าเป็นภาวะทางสมอง หรือ มีโรคเส้นเลือดสมอง ต้องตรวจรักษาเร่งด่วนโดยแพทย์ให้เร็วที่สุด

  • กรณีเป็นโรคของหู ภาวะเวียนจากหูส่วนกลาง น้ำในหู หรือ หินปูนในหูผิดปกติ จะแบ่งเป็น

F.2 การรักษาทางยา จะใช้ยากลุ่มยานอนหลับ ร่วมกับยา Antihistamine ตัวดัง ๆ ได้แก่ Dramamine และ Benadryl บางแพทย์อาจให้ยากลุ่มไมเกรน หรือ ยาแก้อาเจียนให้ทานร่วมด้วย ยารักษาภาวะเวียนหัวให้หายดีโดยตรง จะไม่กล่าวในที่นี่ เพราะ อาจไปซื้อยาผิด ๆ หรือ ทำให้รักษาล่าช้าได้ครับ ให้ปรึกษากับแพทย์ดีกว่า

F.3 การหมุนหัวให้หินปูนเรียงเป็นปกติที่เรียกว่า Canalith repositioning จะใช้รักษาเฉพาะภาวะ benign paroxysmal positional vertigo (BPPV) ซึ่งพบได้มากที่สุดในผู้ป่วยที่เวียนหัวธรรมดาด้วยกัน การทำการโยกหัวดังกล่าวต้องทำโดยแพทย์ หรือ พยาบาลเท่านั้น โดยการทำหัตถการที่เรียกว่า Epley maneuver โดยบางหมออาจแนะนำให้ทำเองที่บ้านด้วย หลังทำผู้ป่วยจะดีขึ้นในทันที หรือ ภายในสองวันหลังทำ

F.4 การฝึกศูนย์การทรงตัว Balance rehabilitation เป็นการออกกำลังกาย ตา คอ หัว และ แกว่งตัว เพื่อให้เรารับรู้การทรงตัว และ หมุนให้สม่ำเสมอ จนชิน ไม่เกิดอาการเวียนหัว การหมุนเอี้ยวออกกำลังกายควรระวังในคนสูงอายุ เพราะอาจทำผิดพลาดเกิดการเวียนหัวมากจนล้ม แล้วเกิดภาวะสะโพกหักได้ ควรค่อย ๆ ทำ และ มีการประคองช่วยในคนสูงอายุเสมอ

F.5 เคล็ดลับการออกกำลังกายท่าหมุน - ต้องมองเห็น ไม่ใช่ส่ายจนตาลายนะครับ เช่น หมุน แล้วหาจุดก่อนทำการออกกำลังกาย เช่นจุดมุมบ้านซ้าย แล้ว หันไปดูจุดมุมบ้านขวา - คนทั่วไปแม้ไม่เป็นภาวะนี้ควรมีการออกกำลังกาย 3 อย่าง คือ หมุนส่าย คล้าย warm up การออกกำลังกายแอโรบิคคือทำให้เหนื่อยต่อเนื่องไม่หยุด 20 - 30 นาที และ การเกร็งรอบเข่ารอบแขนรอบไหล่ - คนที่ออกกำลังกายแต่วิ่ง หรือ ยกน้ำหนักจึงเวียนหัวง่ายได้ไม่รู้ตัว เพราะออกกำลังกายไม่ครบครับ


Cr.  ระพีพันธุ์ กัลยาวินัย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 5503
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง