รู้เปล่า? ... "กาแฟเย็น" ตัวการทำอ้วน !!?
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สำนักโภชนาการ กรมอนามัยได้ดำเนินการศึกษาวิจัย เรื่อง สารอาหารในกาแฟเย็น วัตถุประสงค์เพื่อหาปริมาณสารอาหารหลักและน้ำตาลในกาแฟเย็น โดยเก็บตัวอย่างกาแฟ 3 สูตร คือ มอคค่า ลาเต้ และคาปูชิโน จากร้านขายกาแฟ 3 ประเภท คือ ร้านที่เป็นตราต่างชาติ ร้านที่เป็นตราของไทยและร้านเล็กๆ ทั่วไป มีขนาดบรรจุ 13-20 ออนซ์ หรือ 390-600 มิลลิลิตร ราคาต่อแก้ว 15-145 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและร้านที่ซื้อ จำนวนทั้งสิ้น 43 ตัวอย่าง จากนั้นนำกาแฟแต่ละตัวอย่างมาตวงหาปริมาณแต่ละแก้วแล้วนำรวมผสมเป็นเนื้อเดียวกันก่อนวิเคราะห์
นพ.พรเทพกล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่าใน 1 แก้ว มีปริมาณพลังงาน 97-400 กิโลแคลอรี ไขมัน 0.4-22.1 กรัม โปรตีน 0.6-10.9 กรัม คารโบไฮเดรต 14.4-49.4 กรัม เป็นส่วนที่เป็นน้ำตาล 11-38 กรัม หรือประมาณ 3-10 ช้อนชา
เมื่อแยกตามชนิดของสูตรกาแฟ พบว่าสูตรลาเต้ 1 แก้ว มีพลังงาน 109-288 กิโลแคลอรี น้ำตาลประมาณ 3-9 ช้อนชา คาปูชิโน 1 แก้ว มีพลังงาน 157-303 กิโลแคลอรี น้ำตาลประมาณ 6-9 ช้อนชา มอคค่า 1 แก้ว มีพลังงาน 159-400 กิโลแคลอรี และน้ำตาล ประมาณ 5-9 ช้อนชา
ส่วนกาแฟสูตรอื่นๆ มีพลังงาน 97-317 กิโลแคลอรี และมีน้ำตาลประมาณ 5-9 ช้อนชา ทั้งนี้ ทุกตัวอย่างที่มีขนาดบรรจุ 20 ออนซ์ จะมีพลังงานมากกว่า 200 กิโลแคลอรีและมีน้ำตาลประมาณ 8-9 ช้อนชา
นพ.พรเทพกล่าวอีกว่า ปกติกาแฟจะมีรสขม ในการดื่มจึงมีการเติมน้ำตาลและครีมเทียม โดยเฉพาะการเติมครีมเทียมที่เป็นไขมันทรานซ์เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ จึงไม่ควรเติมครีมเทียม หากต้องการเพิ่มความมันควรใส่นมสดแทน ส่วนน้ำตาลแต่ละคนควรได้รับน้ำตาลสูงสุด 2-3 ช้อนชาต่อวัน
ขณะที่ในกาแฟ 1 แก้ว มีน้ำตาลเกินปริมาณที่ควรได้รับน้ำตาลในแต่ละวัน ซึ่งหากได้รับน้ำตาลมากเกินไปเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ดังนั้น ในการดื่มกาแฟไม่ควรใช้ครีมเทียม ไม่ควรเติมน้ำตาลในปริมาณมาก และควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดน้ำ เนื่องจากเมื่อดื่มกาแฟร่างกายจะมีการขับน้ำออกมา จึงมักจะเกิดอาการหิวน้ำ
Relate topics
- 10 อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกายหลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น
- " ฝึกสมองให้ลดน้ำหนัก "การลดน้ำหนักหรืออดอาหารไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ยิ่งสำหรับบางคนมันเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสอย่างมากสำหรับร่างกายและ จิตใจของตัวเองในการที่จะลดอาหาร ลดไขมัน รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลลอรี่ที่บริโภคเข
- ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพร่ำๆ!!! เตือนภัย 15 โรคติดต่อที่มาพร้อมฤดูฝน!อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หลายคนเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์กันฝน แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อฤดูฝนย่างกรายเข้ามา ก็จะมี 15 เชื้อโรคติดต่อรอโจมตีเราอยู่อย่างเงียบๆ ![
- 'รากบัว' เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สรรพคุณทางยามหาศาลในรากบัวยังพบ “ฟลาโวนอยด์” ซึ่งเป็นสารกลุ่มโฟลีฟีนอล ที่จัดเป็นพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติเด่น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สรรพคุณทางยามากมาย เช่น ลดไข้ บรรเทาอาการไอ อีกด้วย
- ยาก่อนอาหาร ยาหลังอาหาร ลืมกินยาตามเวลา อันตรายหรือไม่ปัญหาที่มักพบเสมอเวลาจะรับประทานยา คือ ต้องรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร และก่อนอาหารนานเท่าไหร่ หลังอาหารกี่นาที ก่อนนอนนานแค่ไหน ถ้าลืมแล้วจะทำอย่างไร ![ คำอธิบายภาพ : findingtherightpill ](http:
- ข้าวโพดต้มสุก มีดีกว่าที่คิด!!!สีเหลืองเข้มอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อ ลูทีน และ ซีเซนทีน ยิ่งนำไปต้มหรือย่าง สารตัวนี้จะยิ่งออกมาเยอะขึ้น!!! ![ คำอธิบายภาพ : IMG20150517112917 ](http://sator4u.com/upload/pics/IMG
- ช็อค! Ending the War on Fat ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษนิตยสารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง TIME ได้เผยถึงบทความเกี่ยวกับ Ending the War on Fat “ความจริงของคอเรสเตอรอล” ที่ทุกๆ คนเข้าใจผิดมาตลอด 60 ปี ที่ว่าคอเรสเตอรอลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจ
- ผัก-ผลไม้ 7 อย่าง! บำรุงสายตา!!!การเลือกรับประทานพืชผักบางชนิดนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นแจ่มแจ๋ว ไม่ร่วงโรยตามอายุได้อีกด้วย ![ คำอธิบายภาพ : foods-for-eye-health-934934 ](http://sator4u.com
- โรคไข้เลือดออกโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหนะของโรค นอกจากเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น และก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ปกครองเวลาเด็กมีไข้ บทความนี
- โรคเก๊าท์ ...การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาถึงแม้ว่าโรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง และในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาภาวะกรดยูริกในเลือดสูงก็ตาม แต่การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาก็ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการรักษาผู้