ไฮโปไกลซีเมีย!!! หรือ โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ...ภัยร้ายคุกคามคนยุคใหม่
ภาวะ “ไฮโปไกลซีเมีย” หรือ “โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง” ถือว่าเป็นโรคที่กำลังคุกคามในสังคมยุคปัจจุบัน โรคนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคใดๆ แต่เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตอย่างไม่ถูกต้อง มีอาการง่วงเหงาหาวนอน อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง มึนเบลอ อยากจะนอนหรือพักผ่อนตลอดเวลา โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ภาวะไฮโปไกลซีเมียส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่มีคุณภาพ เช่น การกินอาหารฟาสต์ฟู้ด แป้งขัดขาว พิซซ่า น้ำอัดลม หรืออาหารหวานมากจนเกินพอดี ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ตับอ่อนจึงผลิตอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาล พอระดับน้ำตาลลดลงไม่เท่าไหร่ หากกินประเภทอาหารข้างต้นเข้าไปอีก น้ำตาลก็สูงขึ้นอีกครั้ง ตับอ่อนจะผลิตอินซูลินมาลดระดับน้ำตาลลงอีกครั้ง จนเป็นภาวะน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงลงต่ำสลับกันไปมา ทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก
รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันที่รีบเร่ง แข่งขันกับเวลา ความเครียดจากการเรียนการทำงานหนัก ปัญหาชีวิตรุมเร้า มลพิษต่างๆ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายเหนื่อยล้า จนเกิดอาการอ่อนเพลียโดยหาสาเหตุไม่ได้ สมองมึน นอนไม่หลับ หรือนอนเยอะตื่นมาก็ยังรู้สึกเพลีย ปวดเมื่อย ระบบขับถ่ายแปรปรวน รวมถึงอีกหลายอาการที่แสดงว่าอาจกำลังตกอยู่ในภาวะไฮโปไกลซีเมียเสียแล้ว โดยแบ่งอาการที่อาจเกิดขึ้นออกเป็น 3 กลุ่มอาการ คือ
1.) กลุ่มความผิดปกติทางร่างกาย มีอาการอ่อนเพลีย ปวดหัว เวียนหัว นอนไม่หลับ เหงื่อแตกบ่อยๆ ใบหน้าร้อนผ่าว มือสั่น ปวดเมื่อย เป็นตะคริวบ่อย มีอาการชักกระตุก คันตามผิวหนัง มือเท้าเย็น การทรงตัวไม่ดี
2.) กลุ่มความผิดปกติของระบบต่างๆ มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เบื่ออาหาร อยากกินของหวานๆ ระบบขับถ่ายผิดปกติ ลมหายใจมีกลิ่นแปลกๆ ปากคอแห้ง หัวใจเต้นผิดปกติ หิวอย่างรุนแรงก่อนถึงเวลาอาหาร น้ำหนักเกิน เป็นลมบ่อย สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
3). กลุ่มความผิดปกติทางจิตใจ รู้สึกเบื่อหน่าย วิตกกังวลง่าย ฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ สับสน เบื่อการเข้าสังคม ทนเสียงอึกทึกและแสงจ้าไม่ค่อยได้ ความจำเสื่อม อารมณ์ร้ายโกรธง่าย ฝันร้ายบ่อย ตลอดจนรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะไฮโปรไกลซีเมีย ต้องรู้จักการปรับพฤติกรรมของตัวเอง ดังนี้ กินอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารหวานจัดหรืออาหารฟาสต์ฟู้ด ก่อนนอนไม่ดื่มสุรา เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนที่จะไปกระทบต่อระบบการนอน พยายามเข้านอนแต่หัวค่ำ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไม่หักโหมจนเกินไป
ผ่อนคลายอารมณ์ไม่ให้เครียด โดยเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล ไม่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึงมากเกินไป หากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลายจิตใจ ไม่ใช้ยานอนหลับ ยาคลายเครียด หรือยากล่อมประสาท หากรู้สึกว่าอาการรุนแรงขึ้นควรปรึกษาแพทย์
Relate topics
- 10 อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกายหลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น
- " ฝึกสมองให้ลดน้ำหนัก "การลดน้ำหนักหรืออดอาหารไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ยิ่งสำหรับบางคนมันเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสอย่างมากสำหรับร่างกายและ จิตใจของตัวเองในการที่จะลดอาหาร ลดไขมัน รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลลอรี่ที่บริโภคเข
- ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพร่ำๆ!!! เตือนภัย 15 โรคติดต่อที่มาพร้อมฤดูฝน!อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หลายคนเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์กันฝน แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อฤดูฝนย่างกรายเข้ามา ก็จะมี 15 เชื้อโรคติดต่อรอโจมตีเราอยู่อย่างเงียบๆ 
