สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ขีดเส้นตาย 1 เดือน! เครือข่ายสวนยางภาคใต้จี้รัฐแก้เพิ่มราคายางสด

photo  , 770x430 pixel , 86,483 bytes.

เครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ ให้เวลารัฐบาล 1 เดือน แก้ปัญหาน้ำยางสด และยางแผ่นดิบราคาตกต่ำ ลั่นถ้าเรื่องไม่ขยับ เตรียมตบเท้าเข้าพบ ‘บิ๊กตู่’ ที่ทำเนียบรัฐบาลแน่ สิ้นเดือนนี้


จากการประชุมประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราและแกนนำชาวสวนยางพาราทั่วภาคใต้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา นายไพรัช เจ้ยชุม ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดพัทลุง เผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขปัญหาราคาน้ำยางสด และยางแผ่นดิบแต่อย่างใด โดยขณะนี้ราคาน้ำยางสดมีการซื้อขายเพียงกิโลกรัมละ 43 บาท ส่วนยางแผ่นดิบราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 57 บาทเท่านั้น ทางเครือข่ายฯ จึงเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาราคาน้ำยางสด และราคายางแผ่นดิบให้เห็นเป็นรูปธรรม เหมือนกับการแก้ปัญหายางแผ่นรมควัน ที่ส่งผลให้ราคาในตลาดกลางสูงขึ้น


"ถ้าหากรัฐบาลยังแก้ปัญหาราคาน้ำยางสด และยางแผ่นดิบที่ราคาตกต่ำไม่ได้ สิ้นเดือนมกราคม 2558 นี้ กลุ่มประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราทั่วภาคใต้ จะเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน" ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพารา จ.พัทลุง ระบุ


นายไพรัช กล่าวด้วยว่า ทางเครือข่ายฯ พึงพอใจการแก้ปัญหาราคายางแผ่นรมควันของรัฐ ด้วยการใช้เงิน 6,000 ล้านบาท ให้องค์การสวนยาง มารับซื้อยางแผ่นรมควันในราคากิโลกรัมละ 60 บาท จนขณะนี้ราคายางแผ่นรมควันที่ขยับสูงถึงกิโลกรัมละ 61-62 บาท แม้ต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละ 64 บาท แต่ชาวบ้านยอมรับได้กับราคาดังกล่าว


วันเดียวกัน นายสุคนธ์ สวัสดิภิรมย์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนยาง จ.กระบี่ กล่าวถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำเช่นกันว่า ถึงแม้ขณะนี้ราคายางพาราได้ปรับขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ที่ 50 กว่าบาท แต่ยังทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาเกษตรกรได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลไปแล้ว แต่ก็ไม่มีผลใดๆ และยังไม่มีการแก้ไขตามข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ยางราคาอยู่ที่ 80 บาท ดังนั้น ชาวสวนยางจึงต้องเตรียมเคลื่อนไหวอีกครั้งตามที่เคยได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า หลังปีใหม่ หากยังไม่ขยับขึ้นตามที่เรียกร้องไว้ก็ต้องเคลื่อนไหวชุมนุม


นายสุคนธ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 10 ม.ค.นี้ ทางแกนนำชาวสวนยางพารา แต่ละพื้นที่จะหารือถึงทิศทางการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลว่าจะเป็นจุดใด ซึ่งเท่าที่มีการหารือกันเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จุดใหญ่ และแต่ละจังหวัดจะเป็นจุดย่อยสำหรับเกษตรกรต่อไป ทั้งนี้ การที่ราคายางตกต่ำมานานเริ่มมีผลกระทบต่อครอบครัวเกษตรกรจำนวนมาก บางรายทราบว่าต้องขายสวน ขายรถ เพราะต้องใช้หนี้แล้ว


ที่มา @ ไทยรัฐออนไลน์

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

« 8089
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง