Clean Food ??? ...กระแสการหันมาดูแลสุขภาพในยุคนี้
กระแสการหันมาดูแลสุขภาพในยุคนี้ นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าคนไทยใส่ใจในการดูแลตัวเองยิ่งขึ้น ทั้งการออกกำลังกายแบบ 25 นาที ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง รวมถึงเรื่องอาหารการกินที่หากเอ่ยถึงอาหารคลีนหรือคลีนฟู้ด (Clean Food) คงจะชินหูและคุ้นเคยเป็นอย่างดีของกลุ่มคนรักสุขภาพ
หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าอาหารคลีนคืออะไร แล้วการกินคลีนดีมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอธิบายว่า คลีนฟู้ด คือ การกินอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุง กระบวนการตกแต่งมากเกินไป และผ่านการปนเปื้อนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากธรรมชาติและสารอาหารอย่างครบถ้วน อาทิ ผักผลไม้สดๆ ธัญพืช อาหารที่ไม่ผ่านการขัดสี แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารมังสวิรัติ เนื้อสัตว์ก็เป็นอาหารคลีนได้
อาหารที่ไม่ปนเปื้อน ก็หมายถึง อาหารที่กินเข้าไปแล้ว มีประโยชน์และไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งการปนเปื้อนก็มีอยู่ 3 ทางด้วยกัน คือ 1.ปนเปื้อนเชื้อโรค มีเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปปะปนในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ไม่สุก อาหารที่ค้างคืน มีแมลงวันตอม ปรุงไม่สะอาด ก็นำมาซึ่งอาการท้องเสีย ท้องเดินได้ 2.ปนเปื้อนจากพยาธิ เช่น การกินอาหารที่สุกๆ ดิบๆ การกินอาหารที่ไม่ระมัดระวังเรื่องความสะอาด และสุดท้าย 3.ปนเปื้อนสารเคมี เช่น กินผักที่ไม่ได้ล้างหรือล้างไม่สะอาด มียาฆ่าแมลงปะปนอยู่ อาหารที่ใส่สีแต่ไม่ใช่สีผสมอาหาร อาหารที่มีพิษ เป็นต้น
"บางคนคิดว่าการกินคลีนต้องกินผัก กินสลัด ถึงจะดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ การกินคลีนต้องมีทั้งข้าว เนื้อสัตว์ มีทั้งโปรตีน ไขมันอยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ โดยการกินคลีน รสชาติของอาหารจะต้องไม่หวานมันเค็มจนเกินไปนัก ทั้งรสหวานจากน้ำตาล หรือรสเค็มจากการเติมเกลือและน้ำปลา รวมไปถึงเครื่องปรุงรสใดๆ ที่ทำให้อาหารมีรสผิดไปจากธรรมชาติ นอกจากนี้อาหารประเภททอดที่ทอดด้วยน้ำมันท่วมๆ หรืออาหารผัดที่ใช้น้ำมันเยอะๆ ก็เป็นอาหารต้องห้ามสำหรับหมวดคลีน ดังนั้นการกินคลีนคือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ให้ถูกหลักโภชนาการ และควบคู่กับการออกกำลังกาย ถึงจะนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี" ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าว
อาจารย์แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการ กล่าวว่า ความจริงแล้วอาหารคลีนฟู้ดมีมานานแล้ว แต่เพิ่งฮิตเป็นกระแสเนื่องจาก มีคนนำมาใช้เป็นเมนูสำหรับลดน้ำหนัก ซึ่งการกินอาหารคลีน ก็คือการกินอาหารที่ปลอดภัย สด ใหม่ โดยไม่ยัดเยียดกระบวนการซ้ำซ้อนในการปรุงหลายขั้นตอน ให้รักษาคุณภาพจากธรรมชาติ
การปรุงอาหารแบบคลีนไม่ใช่การเน้นทานผักเยอะๆ แต่เป็นปรุงอาหารด้วยวิธีง่ายๆ แม้อาหารไทยเองก็เป็นคลีนฟู้ดได้ โดยไม่จำเป็นต้องผลิตหรือปรุงจากวัตถุดิบราคาแพง หรือเลียนแบบสูตรอาหารจากต่างประเทศที่นิยมใช้ผักแปลกๆ ในการทำอาหาร เพียงใช้อาหารที่สะอาด ปลอดภัย ปรุงรสเล็กน้อย ไม่หลายขั้นตอนก็พอแล้ว อาทิ ต้มจืด ตำลึงหมูสับไม่ใส่ซุปก้อน ปลานึ่ง เนื้อย่างไม่ติดมัน ส้มตำไม่ใส่ปูดอง อกไก่อบ ส่วนอาหารที่ไม่คลีนก็ประเภทอาหารที่ปรุงแล้วปรุงอีก เช่น ปลาทอดแล้วนำมาราดพริกอีกที อาหารรสจัด หรือจำพวกอาหารกระป๋อง, อาหารกึ่งสำเร็จรูป, อาหารแช่แข็ง, อาหารฟาสต์ฟู้ด จังก์ฟู้ด, ขนมกรุบกรอบ, เครื่องดื่มน้ำอัดลม ฯลฯ นั่นเอง
อาหารคลีนเป็นอาหารที่ผ่านขั้นตอนการปรุงแต่งมาน้อย เป็นสรรพคุณที่ดีสำหรับคนที่อ้วน คนที่มีน้ำหนักและไขมันมาก เพราะอาหารคลีนส่วนใหญ่จะผลิตมาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งสังเคราะห์ ซึ่งจะมีผลดีต่อคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดไขมัน และคนที่ใส่ใจกับสุขภาพของตนเอง ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวออฟฟิศที่จะตามกระแสและชอบทดลองสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกับตัวเอง
นอกจากการกินคลีนในสัดส่วนที่พอเหมาะจะทำให้รูปร่างดี ลดไขมันแล้ว ยังช่วยชะลอความแก่ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดปัญหาร่างกายเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยในการขับถ่าย ทำให้ผิวสวยหน้าใส เพราะเมื่ออาหารที่เราทางไม่มีสารเคมี ก็ไม่ต้องคอยกังวลว่าร่างกายจะไปต่อสู้กับสารอันตรายเป็นสาเหตุให้เกิดริ้ว รอย และยังลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย
สำหรับคนที่อยากทดลองการกินอาหารคลีน สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา ควรเริ่มต้นด้วยการไม่ยึดติดในรสชาติของอาหารแบบเดิมๆ ที่เราเคยรับประทาน ค่อยๆ ลดปริมาณเครื่องปรุงต่างๆ ลงให้มีรสชาติปานกลาง เพราะการกินคลีนหรือกินอาหารคลีนนั้นรสชาติจะเป็นรอง แต่จะให้ความสำคัญกับตัวอาหารที่ไม่เน้นการปรุงแต่ง เพื่อให้การกินอาหารคลีนได้รับประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกาย และควรหมุนเวียนเมนู ไม่ทานเมนูซ้ำๆ ครั้งละนานๆ หากทำได้ผลพลอยได้ก็คือการมีสุขภาพดีในระยะยาว ไม่เจ็บป่วยง่าย
จะเห็นได้ว่าอาหารคลีนนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของคนรักสุขภาพ และการรับประทานอาหารที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป เพียงเป็นอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ถูกต้องตามหลักโภชนาการ สุขภาพแข็งแรงก็อยู่คู่ตัวเราได้ไม่ยาก
ที่มา @ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Relate topics
- 10 อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกายหลายคนที่ลดน้ำหนักอาจเข้าใจผิดไปว่า หลังออกกำลังกายแล้วนั้นไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ยิ่งอ้วน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงหลังออกกำลังกายนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารอย่างเช่น น
- " ฝึกสมองให้ลดน้ำหนัก "การลดน้ำหนักหรืออดอาหารไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ยิ่งสำหรับบางคนมันเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสอย่างมากสำหรับร่างกายและ จิตใจของตัวเองในการที่จะลดอาหาร ลดไขมัน รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลลอรี่ที่บริโภคเข
- ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพร่ำๆ!!! เตือนภัย 15 โรคติดต่อที่มาพร้อมฤดูฝน!อีกไม่นานประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หลายคนเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์กันฝน แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะเมื่อฤดูฝนย่างกรายเข้ามา ก็จะมี 15 เชื้อโรคติดต่อรอโจมตีเราอยู่อย่างเงียบๆ ![
- 'รากบัว' เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สรรพคุณทางยามหาศาลในรากบัวยังพบ “ฟลาโวนอยด์” ซึ่งเป็นสารกลุ่มโฟลีฟีนอล ที่จัดเป็นพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติเด่น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สรรพคุณทางยามากมาย เช่น ลดไข้ บรรเทาอาการไอ อีกด้วย
- ยาก่อนอาหาร ยาหลังอาหาร ลืมกินยาตามเวลา อันตรายหรือไม่ปัญหาที่มักพบเสมอเวลาจะรับประทานยา คือ ต้องรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร และก่อนอาหารนานเท่าไหร่ หลังอาหารกี่นาที ก่อนนอนนานแค่ไหน ถ้าลืมแล้วจะทำอย่างไร ![ คำอธิบายภาพ : findingtherightpill ](http:
- ข้าวโพดต้มสุก มีดีกว่าที่คิด!!!สีเหลืองเข้มอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อ ลูทีน และ ซีเซนทีน ยิ่งนำไปต้มหรือย่าง สารตัวนี้จะยิ่งออกมาเยอะขึ้น!!! ![ คำอธิบายภาพ : IMG20150517112917 ](http://sator4u.com/upload/pics/IMG
- ช็อค! Ending the War on Fat ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษนิตยสารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง TIME ได้เผยถึงบทความเกี่ยวกับ Ending the War on Fat “ความจริงของคอเรสเตอรอล” ที่ทุกๆ คนเข้าใจผิดมาตลอด 60 ปี ที่ว่าคอเรสเตอรอลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจ
- ผัก-ผลไม้ 7 อย่าง! บำรุงสายตา!!!การเลือกรับประทานพืชผักบางชนิดนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นแจ่มแจ๋ว ไม่ร่วงโรยตามอายุได้อีกด้วย ![ คำอธิบายภาพ : foods-for-eye-health-934934 ](http://sator4u.com
- โรคไข้เลือดออกโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหนะของโรค นอกจากเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น และก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ปกครองเวลาเด็กมีไข้ บทความนี
- โรคเก๊าท์ ...การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาถึงแม้ว่าโรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง และในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาภาวะกรดยูริกในเลือดสูงก็ตาม แต่การรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ใช้ยาก็ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการรักษาผู้