สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ชาวบ้านโคกกลอย จ.พังงา ผุดไอเดียนำขวดน้ำพลาสติกเหลือใช้มารีไซเคิล เลี้ยงกบในขวด พ่อค้ามารับซื้อถึงที่ขายแทบไม่ทัน เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากงานประจำมีรายได้ต่อเดือน 3,000-4,000 บาท


วันนี้ (7 ส.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นำขวดน้ำพลาสติกมาเพาะเลี้ยงกบเป็นรายได้เสริมในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน โดยนายสมพงษ์ สมใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 25/5 หมู่ที่ 9 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง นำขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วมาเลี้ยงกบ เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเหมาะแก่การเลี้ยงกบและการขยายพันธุ์กบ เกษตรกรได้นำกบนาที่หาได้ตามธรรมชาติ อายุแรกเกิดมาเลี้ยงใส่ไว้ในขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว จึงได้นำขวดมาเจาะรูด้านบน และนำหัวขวดน้ำอีกอันตัดมาเสียบเป็นกรวย เพื่อใช้เป็นช่องหยอดอาหารไว้ให้กับลูกกบ โดยจะนำอาหารปลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือน ก็จะได้กบประมาณ 4-5 ตัว สามารถนำไปขายได้กิโลกรัมละ 100 บาท

ด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า การจากนำพ่อ-แม่พันธุ์กบนา มาเพาะเลี้ยงไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาดกว้างหนึ่งเมตร และได้มีการแยกพ่อ-แม่พันธุ์ไว้คนละบ่อ เมื่อต้องการจะผสมพันธุ์ก็จะคัดเลือกแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ โดยสังเกตได้จากข้างท้องบวมๆเพราะเริ่มมีไข่แล้ว ส่วนพ่อพันธุ์กบจะเลือกจากตัวที่ร้องเสียงดัง แล้วนำมาอยู่ด้วยกันในบ่อซีเมนต์ โดยธรรมชาติของกบจะผสมพันธุ์กันในเช้ามืด คือช่วงเวลาตีสี่ถึงหกโมงเช้า พอผสมพันธุ์เสร็จกบตัวเมียก็จะปล่อยไข่ออกมา

จากนั้นนำพ่อ-แม่พันธุ์กบ กลับไปยังบ่อซีเมนต์ตามเดิม โดยในบ่อนี้ให้เหลือเพียงไข่เท่านั้น จากนั้นประมาณ 24 ชั่วโมง ไข่ของกบก็จะเปลี่ยนเป็นลูกอ๊อดไปอีกหนึ่งเดือน พอเข้าเดือนที่สองหางของลูกอ๊อดก็จะเริ่มหดจะเริ่มเป็นลูกกบแล้ว ในช่วงนี้ก็จะนำไปเลี้ยงต่อในขวดน้ำพลาสติกขนาดห้าลิตร โดยมีการเจาะรูไว้ด้านบนขวด เพื่อใช้ระบายอากาศ แล้วใส่น้ำเข้าไปไม่ต้องมาก พอให้กบได้ลงไปแช่ในน้ำได้ ให้อาหารวันละสองครั้ง อาหารที่ให้ก็สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปหรือว่านำอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงปลาดุกก็ใช้ได้ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ พอกบตัวโตเต็มขวด ก็จับขายได้

โดยส่งขายราคากิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นพ่อ-แม่พันธุ์จะขายคู่ละ 400 บาท ส่วนใหญ่พ่อค้าที่รับซื้อจะนำไปทำอาหาร บางรายก็จะนำไปสะเดาะเคราะห์แก้บน แต่ส่วนมากพ่อค้าที่มารับซื้อจะมาจากภูเก็ตและในพื้นที่ใกล้เคียง วันหนึ่งจะขายได้ประมาณ 4-5 กิโลกรัม ปัจจุบันมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มของชุมชน เพื่อเลี้ยงกบในขวดน้ำพลาสติก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ลุงสมพงษ์ได้ให้คำแนะนำในการเลี้ยง ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย สามารถเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ หลังจากเสร็จจากภาระกิจอาชีพหลัก และชาวชุมชนหมู่ที่ 9 ก็ได้รับรางวัลเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงหมู่บ้านต้นแบบ ที่เจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย.

////////////////

ที่มา @ ไทยรัฐ / ทีมข่าวภูมิภาค 7 ส.ค. 2557 15:31