สุเมธดาบส – พระสมณโคดมสัมพุทธเจ้า
“สุเมธดาบส” ในครั้งนั้นท่านเกิดในตระกูลของเศรษฐีพราหมณ์ ได้รับมรดกจากครอบครัว ตกทอดมานานถึง ๗ ชั่วอายุคน มากมายมหาศาล ท่านได้ขนทรัพย์สมบัติออกแจกจ่ายเป็นทานหมดเลย แล้วก็ออกบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญตบะอยู่ในป่าภายใน ๗ วัน ท่านก็ได้บรรลุฌานสมบัติ ๘ เกิดอภิญญาต่าง ๆ
ในสมัยนั้น ท่านเพียงแต่เจริญสมถะ แล้วก็ได้รับอภิญญาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เท่านั้น ไม่รู้วิธีการเจริญวิปัสสนา ได้แต่เพ่งให้จิตแน่วแน่จนได้ฌานสูงสุดคือ อรูปฌาน มีฤทธิ์เหาะได้ และฤทธิ์อื่น ๆ วันหนึ่งท่านเหาะมาทางอากาศ เห็นคนกำลังถากทางกันมากมาย สุเมธดาบสจึงได้เหาะลงไปถามว่าท่านทั้งหลายกำลังทำอะไร คนเหล่านั้นตอบว่ากำลังถางทางเพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้าพระทีปังกรกำลังเสด็จมาใกล้จะถึงแล้ว พอได้ยินว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จมาก็เกิดศรัทธาขอร่วมถากถางทางด้วย
ในขณะที่สุเมธดาบสกำลังกุลีกุจอถากถางทางอยู่แต่ยังไม่เสร็จดี พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวก ๑ แสนรูปเดินทางมาถึง สุเมธดาบสเห็นว่าหนทางยังปรับแต่งไม่เสร็จยังคงชื้นแฉะเป็นโคลนเลนอยู่ จึงนอนราบลงบนพื้นที่บริเวณที่ชื้นแฉะนั้น ท่านเอาแผ่นหลังของท่านต่างสะพาน หวังที่จะให้พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวกเสด็จไปบนร่างกายของตนเอง นี่เป็นการสร้างบารมีของท่าน แล้วในใจก็ตั้งความปรารถนาหวังที่จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
ท่านสุเมธดาบสได้เห็นพุทธลีลาของพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความชื่นชมเลื่อมใสยิ่งนัก เมื่อพระองค์ทรงเสด็จมาถึงและได้ทอดพระเนตรเห็นสุเมธดาบสนอนราบอยู่เช่นนั้น พระพุทธเจ้าทีปังกรทรงทราบถึงความปรารถนาของสุเมธดาบส จึงทรงตรัสพยากรณ์แก่พระสงฆ์สาวกของพระองค์ว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูดาบสผู้มีตบะรุ่งเรืองนี้ ในกัปอันหาประมาณมิได้ระหว่างภัทรกัป (กัปที่มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์) ดาบสผู้นี้จะสำเร็จสมความปรารถนาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านามว่า “โคดม” ดาบสผู้นี้จะกำเนิดเป็นโอรสของกษัตริย์ พระบิดานามว่า พระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดานามว่า พระนางสิริมหามายา แล้วจะสละราชสมบัติออกบวช ได้บรรลุพระสัมโพธิญาณใต้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์(ต้นอัสสัตถะ) จะมีอัครสาวกเบื้องขวาและซ้ายชื่อว่า พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลาน์ มี พระอานนท์ เป็นพุทธอุปัฏฐาก มี พระเขมาเถรี และ พระอุบลวรรณาเถรี เป็นอัครสาวิกา จิตตคหบดีและหัตถกอาฬวกะ จักเป็นอัครอุบาสก นางอุตตราและนางขุชชุตตรา จักเป็นอัครอุบาสิกา”
เมื่อสุเมธดาบสได้ยินเช่นนั้นก็มีความปลื้มปิติใจที่ความปรารถนาของตนเองจะสำเร็จผลในอนาคต จากนั้นสุเมธดาบสได้นำดอกไม้ ๘ กำพร้อมของหอมมาบูชาพระทีปังกรโดยกระทำประทักษิณ ในเวลาต่อมาสุเมธดาบสได้ใคร่ครวญถึงการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ต้องบำเพ็ญคือ “ทศบารมี” หรือบารมี ๑๐ ประการ…”
โดย ทางแพทย์สายพุทธ
จากหนังสือ “บนวิถีแห่งธรรม”เรื่อง “บารมี ๑๐ ทัศ วิถีโพธิสัตว์”โดยพระครูเกษมธรรมทัต (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี)เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
via // ทางแพทย์สายพุทธ
Relate topics
- มีภรรยา 4 คน คุณจะเลือกใคร ?ในสมัยพุทธกาล พ่อค้ามหาเศรษฐีคนหนึ่งมีภรรยา 4 คน เขาหลงรักภรรยาคนที่ 4 มากที่สุด จึงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามหรืออาหารโอชะ ขณะเดียวกัน เขาก็รักภรรยาคนที่ 3
- เสียงธรรม : พระอรหันต์อยู่ไหน โดย ท่าน ว.วชิรเมธีเสียงธรรม : พระอรหันต์อยู่ไหน โดย ท่าน ว.วชิรเมธี ธรรมบรรยายเรื่อง “พระอรหันต์อยู่ไหน” โดย ท่านว.วชิรเมธี บรรยาย ณ วัดวชิรธรรมปทีป ลองไอส์แลนด์ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริ