ทำไมต้องล้มการเลือกตั้งวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
ความขัดแย้งทางการเมืองไทยระหว่าง กปปส.ตัวแทนของมวลมหาประชาชน กับรัฐบาลรักษาการ และผู้สนับสนุน ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งในประเด็นของการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดการเลือกตั้ง หลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภาตามคำเรียกร้องของหลายฝ่าย แต่ไม่ยอมลาออกจากการทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการตามคำเรียกร้องของ กปปส.และบางองค์กร เพื่อให้เกิดสุญญากาศ และให้มีการจัดตั้งสภาประชาชน และนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลคนกลางขึ้นมาทำหน้าที่ชั่วคราวในการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้ง
ฝ่ายรัฐบาล และผู้สนับสนุนต่างมีความเห็นคล้อยตามกันไปว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีการแล้วทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นการขัดพระบรมราชโองการ อันเป็นการกระทำที่ไม่บังควร และเพื่อยุติความขัดแย้งโดยการมอบอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าเห็นด้วยกับฝ่ายใด ถ้าหากฝ่าย กปปส.มั่นใจว่าแนวทางของพวกตนได้รับการสนับสนุนจากมวลมหาประชาชน ทำไมต้องกลัวการเลือกตั้ง เป็นการไม่เคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพหลักการตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนในการทำประชามติมาเอง
ส่วนฝ่าย กปปส.และแนวร่วมกลับแย้งว่า การต่อสู้เรียกร้องของฝ่ายมวลมหาประชาชนมีจุดยืนที่ชัดเจนว่า ต้องการล้มระบอบทักษิณ ถ้าเพียงแต่ยุบสภาแล้วยังรักษาการ และดำเนินการเลือกตั้งทันที ก็จะได้คนเดิมกลุ่มเดิมมาทำเรื่องไม่ดีแบบเดิม แล้วนำไปสู่ความขัดแย้งที่รนแรงกว่าเดิม ส่วนเรื่องพระราชกฤษฎีกาก็เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเองก็เคยเปลี่ยนแปลงพระราชกฤษฎีการมาแล้ว ในการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ประชาชนคนไทยส่วนหนึ่งที่ตามเกมของรัฐบาลรักษาการไม่ทัน ก็อาจจะเออออห่อหมกเห็นดีเห็นงาม คล้อยตามข้อเสนอของรัฐบาลรักษาการ และแนวร่วม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักวิชาการ และส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการที่ชอบประจบสอพลอรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจอยู่แล้ว โดยไม่พินิจพิจารณาว่า แม้ว่าโดยหลักการของการเมืองในระบอบรัฐสภา เมื่อยุบสภาแล้วก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจโดยกระบวนการเลือกตั้ง แต่นั่นมันคือหลักการในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่เชื่อว่ากระบวนการเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ เที่ยงธรรม สามารถจะกลั่นกรองคนดี มีความรู้ความสามารถเข้าสู่อำนาจ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร พรรคการเมืองมีความเป็นพรรคการเมืองอันเป็นที่รวมของคนที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน มีแนวนโยบายที่จะพัฒนาประเทศชาติตามอุดมการณ์ และทำหน้าที่เป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชน ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่พรรคการเมืองต่างๆ คัดเลือกให้ลงสมัครรับเลือกตั้งมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการทำหน้าที่ตรวจสอบ นิติบัญญัติ หรือบริหารกิจการบ้านเมือง ประชาชนผู้ทำหน้าที่เลือกตั้งมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักในบทบาทหน้าที่ และเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง ไปทำหน้าที่เลือกตั้งด้วยความเป็นอิสระจากการครอบงำของอำนาจอิทธิพลใดๆ คณะกรรมการที่จัดการเลือกตั้งมีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม
แต่ในความเป็นจริง การเลือกตั้งในประเทศด้อยพัฒนาอย่างประเทศไทย ในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งที่ออกมาล้วนเป็นประจักษ์พยานให้เห็นแล้วว่า กระบวนการเลือกตั้งของไทยภายใต้กระบวนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยเฉพาะนับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคการเมืองเมื่อปี ๒๕๔๔ เป็นต้นมา เราไม่ได้นักการเมืองดีมีคุณภาพตามที่คาดหวัง เพราะสนามการแข่งขันไม่ได้เน้นที่คนดีมีความสามารถ แต่เน้นที่ผู้มีเงิน มีอิทธิพล มีเครือข่ายพรรคพวก ภายใต้ระบบทุนนิยมอุปถัมภ์ เป็นการเลือกตั้งในระบอบ “ธนาธิปไตย” คือใช้เงินซื้อพรรค ซื้อ ส.ส. และซื้อเสียงเพื่อเข้ากุมอำนาจรัฐ ทำลายกระบวนการตรวจสอบ แทรกแซงองค์กรอิสระ จนนำไปสู่การประท้วงของมวลมหาประชาชนจำนวนหลายล้านคนอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย
ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนของประเทศนี้ที่ประชาชนส่วนหนึ่งเรียกคำนำหน้านายกฯ ว่า “อ้าย” หรือ “อี” อย่างในยุคนายกรัฐมนตรีทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ไม่เคยมีรัฐสภาโดยเฉพะสภาผู้แทนยุคไหนที่ใช้พวกมากลากไป เข็นร่างพระราชบัญญัติที่ขัดต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญ ผิดทั้งขั้นตอน และมีปัญหาทั้งเนื้อหาสาระ จนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้มูลความผิด และไม่เคยมีประธานสภา และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลชุดไหนที่ออกมาแถลงการณ์ว่า ไม่ยอมรับคำวินิจฉัย และอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะฟ้องตลาการศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยไม่เป็นคุณแก่ตน
ไม่เคยมียุคไหนสมัยใดที่นักวิชาการทั้งอาวุโส และอ่อนอาวุโสออกมาตีความรัฐธรรมนูญเข้าข้างรัฐบาลอย่างไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ บางคนมุทะลุจนถึงขนาดว่า “เมื่อเป็นกฎหมายจะมีความเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้” ทั้งๆ ที่เป็นถึงอาจารย์ผู้สอนวิชากฎหมายในสถาบันอุดมศึกษา กลับตีความกฎหมาย และใช้ทัศนะที่คับแคบ และไม่มีทางออกให้แก่สังคมที่กำลังมีความขัดแย้ง
ที่น่าเศร้า และสมเพชเวทนากว่านั้นคือ บรรดานักวิชาการรุ่นเก่าแก่ และสื่อสารมวลชนทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ประกาศสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการทรราชเสียงข้างมาก และมวลชนที่นิยมความรุนแรงว่า เป็นฝ่ายปกป้องประชาธิปไตย เป็นนักต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลเสียงข้างมาก โดยไม่ยอมพูดถึงการทุจริตคอร์รัปชัน การฉ้อฉล การแก้กฎหมาย และแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ส่วนตน และพรรคพวกอย่างไร้ยางอาย สนับสนุนมวลชนที่เถื่อนถ่อยให้คุกคามฝ่ายที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล และออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยวิธีสงบสันติ ปราศจากอาวุธ
มีนักวิชาการอาวุโสบางคนเพี้ยนหนัก ถึงขนาดยกย่องนายกรัฐมนตรีที่มวลมหาประชาชนมองว่า ต่ำกว่ามาตรฐาน และปัญญาอ่อนว่า เป็น “รัฐบุรุษ” และประณามมวลมหาประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันเพื่อปฏิรูปประเทศว่า “อันธพาลทางการเมือง”
ดังนั้น การเลือกตั้งในบรรยากาศความขัดแย้งแบบนี้จึงเป็นการดันทุรังนำสังคมเข้าสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งก่อนการเลือกตั้ง ขณะเลือกตั้ง และหลังจากการเลือกตั้ง และไม่มีอนาคตเลยว่าการปฏิรูปการเมืองที่หลายฝ่ายเห็นด้วย และสนับสนุนให้มีการดำเนินการก่อนการเลือกตั้งนั้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการปฏิรูปดังกล่าวไม่อาจจะอาศัยศักยภาพของนักการเมือง และพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เขาเป็นได้แค่ “นักเลือกตั้ง” และพรรคการเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นได้แค่ “กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง”
หากมีความจริงใจต่อการปฏิรูปการเมืองเพื่ออนาคตของลูกหลาน จึงไม่ควรผลักดันประชาชนเข้าสู่สมรภูมิการเลือกตั้ง โดยที่ประชาชนส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่เอาการเลือกตั้งโดยยังไม่ได้ปฏิรูปใดๆ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังไม่สิ้นสุดยุติ.
ที่มา : ASTV ภาคใต้ http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000155631
Relate topics
- อนุสนธิจาก คสช. / สันติภาพ (otium) ต้องเป็นไปพร้อม ๆ กับ ศักดิ์ศรี (dignitate) ถ้าขาดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานการรัฐประหารครั้งล่าสุด ณ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ นี้ ดูจะใช้บทเรียนจากความล้มเหลวของคราวที่แล้ว อย่างน่าทึ่ง เช่น ๑) เริ่มจากการประกาศกฎอัยการศึกก่อน แล้วจึงประกาศยึดอำนาจอีกสองวันต่อมา แม้วุฒิสภาก
- อบจ. สงขลา กับก้าวย่างของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ // จังหวัดสงขลา คือเมืองหลวงของภาคใต้ตอนล่าง เป็นเมืองหน้าด่าน ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ด้านรัฐเคดาห์ และรัฐเปอร์ลิส มีสถานกงสุลใหญ่ของประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐประ
- "ทำไม ? ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ...มาฟังความเห็นจากบุคคลต่างๆว่า "ทำไม ? ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ... 1. อาจารย์ปิง เจริญศิริวัฒน์สถาบันกวดวิชาดาวองก์ “ระบบแบ
- ปริศนาคดีปล้นเรือขนเงินร้อยล้าน...ปริศนาเกาะโลซิน ปัตตานีคดีใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ไม่ดังเท่าคดีฆ่า "เอ็กซ์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย" แต่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ คดีกองปราบโชว์ผลงานจับ "แก๊งปล้นเรือขนเงิน" มูลค่าถึง 119 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงต้นเดือน ต
- สุเทพ 'ผู้เขียนตำราให้โลกเรียน' #เปลวสีเงิน 21 December 2556สุเทพ 'ผู้เขียนตำราให้โลกเรียน' # เปลวสีเงิน 21 December 2556 "หลวงพ่อชา สุภัทโท" ตอนไปอยู่ที่อังกฤษ เช้าขึ้นท่านก็ออกบิณฑบาต มีคนนมัสการถามท่านว่า "จะบิณฑบาตทำไม คนอังกฤษไม่รู้จักพระ ไม่มีใครเขาใ
- การเมืองไทยกับไฟใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่มาได้ 2 ปีเศษก็ถูกปลุกม็อบไล่ งานนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ไปผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ “ฉบับสุดซอย-ทะลุซอย” ล้างผิดเหมาเข่งย้อนหลังไปร่วม 10 ปี ไม่กำหนดรูปแบบคดีความผ
- ฉลองปีใหม่บนแผ่นดินไฟใต้ให้เต็มสุขได้หรือไม่อยู่ที่ “กอ.รมน.ภาค 4 สน.” / ไชยยงค์ มณีพิลึกคอลัมน์ : จุดคบไฟใต้ โดย...ไชยยงค์ มณีพิลึก (ASTV ภาคใต้) สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สถานการณ์ที่ยังอยู่ในวังวนเดิมๆ นั่นคือ ลักษณะที่ยันกันไปยันกันมาระหว่างหน่วยรบ “อาร์เคเค” ซึ
- คารวาลัย “หมัดแสล๊ะ เส็นลิหมีน” : “คนดีของแผ่นดิน”โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย ข้าพเจ้าทราบข่าวร้ายการจากไปโดยไม่มีวันกลับของ “หมัดแสล๊ะ เส็นลิหมีน” เพื่อนรุ่นน้องผู้ร่วมอุดมการณ์ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นชาวหัวเขาแดง อ.สิงหนคร จ
- เหยื่อกระสุนไร้เดียงสา "มูซา สะมะแอ" กับเรื่องแย่ๆ ของการละเลยเด็กเหยื่อไฟใต้"ลูกชอบให้นอนกอดกันตลอด เราไม่เคยห่างกัน เห็นหน้าเขาแล้วสงสาร ลูกบอกว่าเจ็บ หมอต้องมัดมือไว้ เพราะกลัวเขาไปแกะสารพัดสายที่ใส่ไว้ (สายส่งอาหาร เครื่องช่วยหายใจ) ตอนนี้ยังเข้าเยี่ยมได้แค่บางเวลา แต่เฝ้า