สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ด้วยมองว่า “น้ำพริกพื้นบ้าน” ฝีมือของกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่สามารถจะเพิ่มมูลค่าด้านการตลาดได้ เนื่องจากขั้นตอนวิธีการทำ คุณภาพของวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ตลอดรวมทั้งรสชาติที่ได้มาตรฐาน เป็นเหตุผลให้ ผศ.สุวรรณี โภชากรณ์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการจัดการ มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ได้ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์น้ำพริกธรรมดาๆ ของชุมชนบ้านปากแพรก อ.บางขัน สู่แพ็กเกจหรู นำจำหน่ายสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

ผศ.สุวรรณ กล่าวว่า มีแนวคิดดำเนินโครงการการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์น้ำพริกจากผักพื้นบ้านสมุนไพร ด้วยมุ่งประเด็นให้คำปรึกษาด้านการตลาด การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพราะมองว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าน้ำพริกพื้นบ้านนี้ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากตัวผลิตภัณฑ์น้ำพริกได้คุณภาพทั้งด้านรสชาติ วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต เพื่อที่ในอนาคตผลิตภัณฑ์จะสามารถยกระดับสู่ตลาดสากลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้ อันเป็นการเพิ่มมูลค่า ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ


“ทาง มทร.จึงได้เลือกสนับสนุนที่ชุมชนบ้านปากแพรก อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ที่สมาชิกชุมชนได้ผลิตเครื่องแกง-น้ำพริกสมุนไพรพื้นบ้าน แต่ยังไม่ได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างเต็มรูปแบบ เราจึงมาช่วยเสริมตรงนี้ โดยทางชุมชนเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กระทั่งออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แพ็กเกจที่ได้มาตรฐานอันนำมาซึ่งภาพลักษณ์ของชุมชนดังกล่าว”


นางวรรณา สุชาดา ประธานหมู่ที่ 1 ชุมชนบ้านปากแพรก อ.บางขัน กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มหาวิทยาลัยเข้ามามีส่วนร่วมจัดอบรมในโครงการออกแบบตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งแนะเทคนิคคัดเลือกวัตถุดิบที่เน้นความสะอาด สดใหม่อันนำมาเป็นส่วนผสมในการทำน้ำพริกเครื่องแกง ซึ่งมีทั้งเครื่องแกงเผ็ด (แกงคั่ว) เครื่องแกงส้ม ที่เก็บไว้ได้นานถึง 2-3 เดือน โดยไม่ต้องใส่ไว้ในตู้เย็นและนำไปประกอบอาหารได้ทันที


“น้ำพริกเครื่องแกงที่ใช้พืชสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ นอกจากเพิ่มความอร่อยให้เมนูต่างๆ แล้ว นับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากด้วย เนื่องจากมีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายชนิด” นางวรรณา กล่าว


พร้อมระบุถึงการนำพืชผักสมุนไพรมาใช้เป็นส่วนประกอบทำ “น้ำพริกเครื่องแกง” ว่า ที่สำคัญคือพริกขี้หนู เพราะนับว่าเป็นตัวเอกที่จะชี้วัดความอร่อยของรสชาติ ซึ่งมุ่งคัดสรรพริกขี้หนูที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านอื่น อาทิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย หอม กระเทียม ขมิ้น พริกไทยสด เป็นต้น โดยวัตถุดิบทั้งหมดที่กล่าวมา ประธานชุมชนฯ บอกว่า จะต้องได้คุณภาพ และมุ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่น เพราะสมุนไพรแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในเรื่อง กลิ่น รสชาติ อีกทั้งช่วยเพิ่มความหอมของอาหาร ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารเมื่อได้กลิ่น เพิ่มความอร่อยของอาหารจานนั้นๆ ทำให้มีรสชาติที่แตกต่าง เมื่อรวมอยู่ในจานเดียวกัน


cr : คม ชัด ลึก – 21 มกราคม 2558 (ทำมาหากิน : เพิ่มมูลค่า ‘น้ำพริกพื้นบ้าน’ สู่ ‘ผลิตภัณฑ์’ คุณภาพชุมชน : โดย…ธานี กุลแพทย์)