โศกนาฏกรรมประวัติศาสตร์ เรือเฟอร์รี “เซวอล” บทพิสูจน์โลกไม่เคยสิ้น “คนดี”
Weekend Focus:โศกนาฏกรรมประวัติศาสตร์ เรือเฟอร์รี “เซวอล” บทพิสูจน์โลกไม่เคยสิ้น “คนดี”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
26 เมษายน 2557 06:13 น.
อุบัติเหตุเรือเฟอร์รี “เซวอล” พลิกคว่ำก่อนจะอับปาง ที่นอกชายฝั่งเกาหลีใต้ในเช้าวันพุธที่ 16 เมษายน กลายเป็นหนึ่งในข่าวช็อกความรู้สึกผู้คนทั่วโลกมากที่สุด หลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมกลางสายน้ำในครั้งนี้ พุ่งสูงกว่า 160 ชีวิต ขณะที่อีกมากกว่า 140 คนยังสูญหาย และคาดว่าทั้งหมดเสียชีวิตแน่นอนแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุครั้งนี้จะมีไม่น้อยกว่า 300 ศพ แต่ถึงกระนั้น เหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า โลกไม่เคยหมดสิ้น “คนดี” ที่พร้อมยืนหยัดและเสียสละเพื่อผู้อื่นในช่วงเวลาวิกฤต
ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยยามฝั่งแดนโสมขาวยังระบุด้วยว่า มีผู้รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่เกิดขึ้น บริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งทางภาคใต้ของประเทศรวมทั้งสิ้น 174 คนจากจำนวน 476 ชีวิตที่อยู่บนเรือในขณะเกิดเหตุโดยที่ในจำนวนผู้ที่รอดชีวิตนั้นมี “กัปตันเรือ พร้อมด้วยลูกเรือส่วนใหญ่” รวมอยู่ด้วย ขณะที่ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด คือ เหล่า“ผู้โดยสาร” นถึงขณะนี้ สาเหตุการอับปางของเรือเซวอลซึ่งเป็นเรือเฟอร์รีระวางขับน้ำ 6,825 ตันที่ต่อในญี่ปุ่นเมื่อปี 1994 และบริษัท ชองแฮจิน มารีน ของเกาหลีใต้ได้ซื้อต่อมาใช้งานในปี 2012 ยังคงเป็นปริศนา โดยทีมสอบสวนของรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเร่งนำตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การที่เรือเซวอลหักเลี้ยวอย่างกะทันหันทำให้สินค้าขนาดใหญ่ที่บรรทุกมาในเรือเทไปด้านใดด้านหนึ่ง น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือเสียสมดุลและอับปางลงในที่สุดในบริเวณน่านน้ำห่างจากชายฝั่งด้านใต้ของเกาะบยองปุง (Byungpoong Island) ราว 20 กิโลเมตร ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางที่แท้จริง คือ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อย่างเกาะเจจู ในส่วนของกระบวนการสอบสวนของทางการเกาหลีใต้นั้น ล่าสุดมีข้อมูลว่า ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ อี จุน ซก กัปตันเรือวัย 69 ปีอาจมิได้ทำหน้าที่ของตนอยู่บริเวณสะพานเดินเรือ โดยพบหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับล่างซึ่งมีประสบการณ์ต่ำทำหน้าที่ควบคุมการเดินเรือในขณะเกิดเหตุ ขณะที่กัปตันเรือรายนี้ซึ่งตกเป็นข่าวว่าได้หนีเอาตัวรอดออกมาจากเรือ โดยไม่สนใจชะตากรรมของเหล่าผู้โดยสาร ได้ออกมาแถลงขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับบริษัทต้นสังกัดของเขา แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้
มีรายงานที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อหลายสำนักในเกาหลีใต้ว่า ลูกเรือรายหนึ่งที่ทำงานในเรือเฟอร์รีเซวอลในวันเกิดเหตุออก มายอมรับเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า กัปตัน อี จุน-ซก วัย 69 ปี เพิกเฉยต่อคำขอ “อย่างน้อย 3 ครั้ง” ของลูกเรือ ที่เสนอให้มีการประกาศ “สละเรือ” และการไม่ตอบสนองของกัปตันผู้นี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเดินเรืออยู่บนสะพานเดินเรือ ถูกระบุว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึงนักเรียน และครูรวม 339 คนจาก “โรงเรียนมัธยมดันวอน” ที่อยู่ระหว่างการเดินทางไปทัศนศึกษายังเกาะเจจู
ด้านเครือข่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์ “เคบีเอส” ของเกาหลีใต้รายงานในวันอังคาร (22) โดยอ้างเอกสารบันทึกการสนทนาระหว่างลูกเรือและศูนย์ควบคุมการเดินเรือบนเกาะจินโด โดยในบันทึกดังกล่าวพบข้อความที่กัปตันและลูกเรือ ออกคำสั่งให้ผู้โดยสารอยู่กับที่ ในขณะที่เรือกำลังอับปาง
จากหลักฐานเบื้องต้นที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ที่แสดงถึงความไร้มนุษยธรรมของกัปตันและลูกเรือตลอดจนการบกพร่องต่อหน้าที่อย่างเลวร้ายของพวกเขา ส่งผลให้ ประธานาธิบดีหญิง พัค กึน-ฮเยของเกาหลีใต้ กล่าวประณามพฤติกรรมของกัปตันอี จุน-ซก และลูกเรือว่าเป็นสิ่งที่มิอาจยอมรับได้ และถือว่ากัปตันและลูกเรือกลุ่มนี้เป็น “ฆาตกร” ขณะที่ “โคเรีย เฮรัลด์” รายงานว่า กัปตันผู้นี้อาจต้องรับโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต หากศาลตัดสินว่าเขามีความผิด
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเรือเฟอร์รีเซวอล ก็ยังคงมีเรื่องราวที่งดงามของเหล่า “ผู้กล้า” หลายรายทั้งชายหญิงที่เลือกที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกับตนให้รอดชีวิต แม้สุดท้ายแล้ว ตนเองจะต้องจบชีวิตลงก็ตาม ดังเช่น กรณีของ ปาร์ค จียอง ลูกเรือสาววัย 22 ปีที่เพิ่งทำงานบนเรือเซวอลได้เพียงแค่ 6 เดือน ที่ปฏิเสธสวมเสื้อชูชีพเนื่องจากเห็นว่ามันไม่เพียงพอกับผู้โดยสาร และไม่ยอมกระโดดลงจากเรือเพื่อเอาตัวรอด โดยเธอปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นในความพยายามช่วยเหลือผู้โดยสารให้ได้มากที่สุดจนถึง “วินาทีสุดท้าย”
นอกเหนือจาก ปาร์ค จียอง แล้ว ยังมีผู้ที่ได้รับการยกย่อง ในฐานะฮีโร่ของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย จอง ชาวุง นักเรียนอายุ 17 ปี เขาได้สละเสื้อชูชีพให้เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะจมน้ำ และยังเข้าไปช่วยเพื่อนนักเรียนอีกหลายคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เสียชีวิต เนื่องจากทนความหนาวเย็นของน้ำไม่ไหว
ส่วนอีกคนคือ คิม ฮองกยอง อายุ 59 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร ที่ใช้ผ้าม่านในเรือทำเป็นเชือกช่วยให้คนที่กำลังจะจมน้ำรอดชีวิตมาได้กว่า 20 ราย ส่วนตัวเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากชาวประมงและแม้ว่าตัวเขาจะปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังอาสาจะช่วยตามหาผู้สูญหายคนอื่น ๆ ต่อด้วย
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แม้จะถือเป็นความสูญเสียทางน้ำที่เลวร้ายที่สุดในรอบมากกว่า 20 ปีของเกาหลีใต้ และยังพบการแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวอย่างเลวร้ายของกัปตันและลูกเรือส่วนใหญ่ในช่วงเวลาวิกฤต แต่ถึงกระนั้น ก็ยังปรากฏวีรกรรมอันน่าชื่นชมของอีกหลายผู้กล้าให้ผู้คนได้ยกย่องสรรเสริญถึงความเสียสละของพวกเขา ในยามที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันกำลังเดือดร้อน และความดีงามของคนเหล่านี้ จะกลายเป็นแสงสว่างเล็กๆ ที่ช่วยให้เราได้เห็นว่า แท้จริงแล้ว โลกใบนี้ไม่เคยสูญสิ้น “คนดี”
Cr. // ASTV Manager
Relate topics
- ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่อำเภอปากพนังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบแก่ประชาชนผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่อำเภอปากพนัง จังหวัดน
- กรมสุขภาพจิต เตรียมทีมดูแลเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย จากพายุ “ปาบึก”วันที่ 4 ม.ค. 62 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า สถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ในช่วงระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา
- เปิดตัวเลขเยียวยาชาวประมงจากพายุปาบึก จำนวน 5,668 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 20,805 ไร่นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมงกล่าวถึงสถานการณ์พายุปาบึกที่ทำให้ชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเสียหายใน 7 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และสตูล จ
- อุตุฯ ฉบับที่ 26 "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความอากาศต่ำกำลังแรงประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 26 ลงวันที่ 05 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันนี้ (5 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่
- พังงา เรือทุกชนิดสามารถเดินเรือได้ตามปกติจังหวัดพังงา ประกาศให้เรือทุกชนิดเดินเรือได้ตามปกติ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนเรื่องพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) คาดว่าจะมีผลกระทบต่
- อุตุฯ ฉบับที่ 19 พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราชประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 04 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอช้างกลาง จังหวั
- อิทธิพลของพายุปาบึก ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ตลอดชายฝั่งจังหวัดสงขลาไปจนถึงจังหวัดนครศรีธรรมแล้วอิทธิพลพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK)” ปรับเส้นทางไปทางเหนือเล็กน้อยหากไม่เปลื่ยนแปลงคาดว่าจะผ่านพื้นที่เขตติดต่อระหว่างนครศรีฯ กับสงขลา ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระวังน้ำหลากรุนแรง น้ำท่วมฉับพลันและน
- ปาบึกขึ้นฝั่งแล้ว อ.ปากพนัง ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมงประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 18 ลงวันที่ 04 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 12.45 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนัง จ
- อุตุฯ ฉบับที่ 14 "พายุปาบึก" ลงอ่าวไทยตอนล่างแล้วประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 03 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันนี้ (3 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) ได้เคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทยตอนล่างแล้ว โดยมีศู
- กองทัพอากาศ ระดมสรรพกำลังทุกกองบิน เตรียมรับมือ "พายุปาบึก"กองทัพอากาศ สั่งการทุกกองบินรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” พร้อมระดม EC-725ะ เฮลิคอปเตอร์ และ เครื่องบิน C-130 พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที เกาะสมุยกัน16พื้นที่รองรับผู้อพยพ ด้านชุมพรเร่งระบายนักท่องเที่