ข้อควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้อ่อนเยาว์ก่อนวัย
เมื่ออายุของเรามากขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อระบบในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจนเกิดปัญหาตามมา โดยบริเวณที่ได้รับผลกระทบและสังเกตได้ง่ายที่สุดคือบริเวณใบหน้า เพราะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ในทันทีเมื่อพบเจอกัน ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ได้แก่ ถุงใต้ตา มีร่องแก้มที่ลึก ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ใบหน้าที่สมดุล เป็นต้น โดยในปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหาได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมคือการฉีดฟิลเลอร์
ซึ่งก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ ก็ต้องรู้ก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง มีกี่รูปแบบ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น
ฟิลเลอร์คืออะไร ดีจริงหรือไม่?
โดยฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารชนิดหนึ่งที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง ช่วยสำหรับแก้ปัญหาความบกพร่องในด้านต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งสารที่นำมาใช้ได้ก็มีอยู่หลายชนิด โดยสารที่นิยมนำมาใช้คือสารไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งได้มาตรฐานอย. มีความปลอดภัยที่สูง
โดยก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือศัลยแพทย์โดยเฉพาะ และเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน หากมีประวัติแพ้ยาก็ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบในทันที รวมถึงเตรียมร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ
ฟิลเลอร์มีกี่รูปแบบ?
ฟิลเลอร์ (Filler) สามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น การแบ่งตามความคงทน จะสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler)
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังเพื่อแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเติมเต็มความอ่อนเยาว์ โดยฟิลเลอร์แบบชั่วคราวส่วนใหญ่จะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent filler)
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังเพื่อแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเติมเต็มความอ่อนเยาว์ โดยฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรจะคงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ประมาณ 1-2 ปี
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler)
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) คือสารเติมเต็มที่ใช้เพื่อปรับปรุงความสมดุลของใบหน้าหรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยฟิลเลอร์นี้จะถูกฉีดหรือใส่ลงในชั้นผิวหนังเพื่อเติมเต็มผิวหนังหรือเพิ่มปริมาณของสารในบริเวณที่ต้องการ ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะคงอยู่ถาวร ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ
บริเวณที่ได้รับความนิยมในการฉีดฟิลเลอร์
โดยบริเวณที่ได้รับความนิยมสำหรับฉีดฟิลเลอร์ ก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณนั้น ๆ ได้แก่
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม: โดยฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู และลดเลือนริ้วรอย
- ฟิลเลอร์ใต้ตา: ซึ่งฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ช่วยให้ตาดูสดใส ลดเลือนรอยคล้ำ และรอยตีนกา
- ฟิลเลอร์ปาก: สามารถช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก และลดเลือนรอยมุมปาก
- ฟิลเลอร์คาง: โดยฟิลเลอร์สามารถช่วยเสริมคางให้ดูโดดเด่น แก้ปัญหาคางสั้น, คางบุ๋ม และคางเอียง เป็นต้น
- ฟิลเลอร์ขมับ: ซึ่งฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มขมับ ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
- ฟิลเลอร์หน้าผาก: สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกบนหน้าผาก ช่วยลดริ้วร้อย เป็นต้น
- ฟิลเลอร์จมูก: โดยฟิลเลอร์สามารถช่วยเสริมจมูกให้ดูโด่งซึ่ง
- ฟิลเลอร์ใต้โหนกแก้ม: ซึ่งฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มใต้โหนกแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
ฟิลเลอร์ประกอบไปด้วยสารเติมเต็มอะไรบ้าง?
ฟิลเลอร์ (Filler) ประกอบไปด้วยสารเติมเต็มหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติ ความคงอยู่ และราคาแตกต่างกันออกไป เช่น
Hyaluronic Acid
ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก (HA) เป็นสารเติมเต็มที่ใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มปริมาณใบหน้า HA เป็นสารที่พบตามธรรมชาติในร่างกายซึ่งช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและชุ่มชื้น
คุณสมบัติของกรดไฮยาลูโรนิก
- กักเก็บน้ำ: กรดไฮยาลูโรนิกสามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง ทำให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง และเรียบเนียน
- ลดเลือนริ้วรอย: เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตกรดไฮยาลูโรนิกได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวแห้ง เกิดริ้วรอย และรอยตีนกา กรดไฮยาลูโรนิกช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง และลดเลือนริ้วรอย
- เพิ่มความยืดหยุ่น: กรดไฮยาลูโรนิกช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- สมานแผล: กรดไฮยาลูโรนิกมีบทบาทสำคัญสำหรับสมานแผล จึงอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีสิว หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
Calcium Hydroxyapatite
ฟิลเลอร์แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) เป็นสารเติมเต็มแบบกึ่งถาวรที่ใช้ฉีดเพื่อแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเติมเต็มความอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์ประเภทนี้ประกอบด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบในกระดูกและฟันของมนุษย์ แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง แก้ไขยาก และมีผลข้างเคียงรุนแรง
คุณสมบัติของแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์
- ผลลัพธ์ยาวนาน: อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ HA ประมาณ 1-2 ปี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เต่งตึง
Polyalkylimide
โพลียัลคิไมด์ (Polyalkylimide) เป็นฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรที่ใช้ฉีดเพื่อแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มความอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่พบในร่างกาย ซึ่งมีความเสี่ยงสูง แก้ไขยาก ผลข้างเคียงรุนแรง อาจเกิดผลข้างเคียงระยะยาว เช่น ก้อนฟิลเลอร์ การอักเสบ การติดเชื้อ และไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
คุณสมบัติของโพลียัลคิไมด์
- ผลลัพธ์ยาวนาน: อยู่ได้นานหลายปี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เต่งตึง
Poly-L-lactic acid (PLLA)
ฟิลเลอร์โพลี่ แอล แลคติด แอซิด (PLLA) เป็นวัสดุที่ใช้ในฟิลเลอร์แบบถาวรเพื่อปรับปรุงกระชับของผิวหน้า มีชื่อทางการค้าที่รู้จักกันดีคือ Sculptra. การใช้ PLLA ในฟิลเลอร์มักจะเน้นไปที่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติและยาวนาน
คุณสมบัติของโพลี่ แอล แลคติด แอซิด
- ผลลัพธ์ยาวนาน: อยู่ได้นาน 1-2 ปี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เต่งตึง
- ปลอดภัย: เกิดผลข้างเคียงน้อย
- เข้ากันได้กับเนื้อเยื่อ: ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
Polymethyl-methacrylate microspheres (PMMA)
ฟิลเลอร์โพลีเมทิลเมทาคริเลต ไมโครสเฟียร์ (PMMA) เป็นฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรที่ใช้ฉีดเพื่อแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มความอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์ประเภทนี้ประกอบด้วย PMMA ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
คุณสมบัติของโพลีเมทิลเมทาคริเลต ไมโครสเฟียร์
- ผลลัพธ์ยาวนาน: อยู่ได้นาน 5-10 ปี
- ไม่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ผลลัพธ์มาจากตัวฟิลเลอร์
- ปลอดภัย: เกิดผลข้างเคียงน้อย
- เข้ากันได้กับเนื้อเยื่อ: ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยมสำหรับปรับปรุงใบหน้าหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ เช่น
- ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มความอ่อนเยาว์ได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
- ความปลอดภัย: ฟิลเลอร์ที่ใช้ในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ยาวนาน: ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถอยู่ได้นานหลายปี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน
- ตัวเลือกหลากหลาย: ฟิลเลอร์มีหลายชนิด สามารถเลือกให้เหมาะกับปัญหาและความต้องการ
- ไม่ต้องผ่าตัด: การใช้ฟิลเลอร์ไม่ต้องใช้กระบวนการผ่าตัด ทำให้ลดความเสี่ยงและเวลาสำหรับฟื้นตัว
วิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังการทำฉีดฟิลเลอร์ การดูแลตนเองมีความสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง วิธีการดูแลตนเองหลังการทำฉีดฟิลเลอร์ เช่น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หลังการทำฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตำแหน่งที่ฉีด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- ควรหลีกเลี่ยงการบริหารหน้าที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
- ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันการทำให้ฟิลเลอร์กระเด็นหรือกระจายไปส่วนต่าง ๆ
- ควรทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำและสบู่เบา ๆ โดยไม่ใส่แรงมากเกินไป
- ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงหากออกข้างนอก
- หากมีอาการไม่ปกติหรือพบปัญหาใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับช่วยแก้ไขปัญหาบนใบหน้า ด้วยการฉีดสารต่าง ๆ ตามความเหมาะสมเข้าสู่ร่างกายและใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงมีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานอย. เท่านั้น