สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

การรู้จักวิธีสังเกตอาการไข้เลือดออกเอาไว้จะช่วยให้คุณดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกได้อย่างดีที่สุด เลี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ บทความนี้จึงจะพาคุณมารู้จักกับโรคไข้เลือดออก อาการของไข้เลือดออก และแนวทางการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกให้มากขึ้น

ทำไมต้องระวังไข้เลือดออก ?

ไข้เลือดออก เป็นโรคที่อันตรายและสามารถคร่าชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีหรือไม่รู้วิธีสังเกตอาการไข้เลือดออก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็นเขตร้อนชื้นซึ่งมีอัตราการเกิดโรคไข้เลือดออกสูง โดยสาเหตุหลัก ของโรคไข้เลือดออก คือ การถูกยุงลายที่ติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) กัดนั่นเอง ทำให้มีสถิติการเกิดโรคไข้เลือดออกสูงมากในฤดูฝน และในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ

เหตุผลที่ต้องระวังไข้เลือดออก

อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ภาวะช็อก ภาวะเลือดออกในอวัยวะต่างๆ ภาวะตับวาย ภาวะไตวาย ภาวะสมองอักเสบ และเสียชีวิต การรักษาเป็นเพียงการรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาเฉพาะ แต่ยังมีข้อดีที่สามารถป้องกันได้โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และป้องกันยุงกัด ดังนั้นมารู้จักวิธีสังเกตอาการไข้เลือดออกกันเลย

วิธีสังเกตอาการไข้เลือดออก

• ไข้สูง: ไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส นาน 2-7 วัน

• ปวดศีรษะ: ปวดหัวทั่วศีรษะ

• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ: ปวดเมื่อยตามตัว

• เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน: รู้สึกไม่สบาย ทานอาหารได้น้อย

• หน้าแดง: ใบหน้าแดงก่ำ

• ผื่นแดงตามตัว: อาจมีผื่นแดงขึ้นตามตัว

• เลือดออกผิดปกติ: เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามผิวหนัง อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ
  
  
  ข้อควรระวังในการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก

1.ห้ามซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

2.ห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือนรับประทานยาพาราเซตามอล

3.ให้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

4.ใช้ยาพาราเซตามอลเท่านั้น

5.ห้ามใช้ยาลดไข้ที่มีส่วนผสมของแอสไพริน หรือ ibuprofen

6.เช็ดตัวเพื่อลดไข้

7.สังเกตอาการ หรือสัญญาณอันตราย เช่น ซึมลง ปัสสาวะน้อยลง มือเท้าเย็น ความดันโลหิตต่ำ อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ เลือดออกผิดปกติ

8.รีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรง


ข้อแนะนำอื่น ๆ ในการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก

• ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ

• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ

• ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือแร่ให้เพียงพอ

• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์

• ให้ผู้ป่วยทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย

• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด หรือมัน
  
  
  เมื่อรู้วิธีสังเกตอาการไข้เลือดออกแล้ว ต้องไม่ลืมร่วมใจกันป้องกันโรคไข้เลือดออก เพราะนั่นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีได้ อย่าลืม! การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และป้องกันยุงกัด