สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ตั้งแต่เด็กเราอาจเคยท่องจำกันว่าวิตามินที่สำคัญของร่างกาย ได้แก่ เอ บี ซี ดี อี เค ในขณะที่วิตามินบีนั้นยังมีตัวเลขกำกับแยกย่อยไปอีกมากมาย ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน หากขาดไปจะส่งผลให้ร่างกายทำงานไม่เป็นปกติ จึงต้องกินวิตามินบีเพื่อเสริมประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ลองไปดูกันว่าวิตามินบีเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง และเราจะหาวิตามินบีได้จากอะไรบ้าง

วิตามิน เป็นสารประกอบเคมีอินทรีย์ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ แม้แต่ละวันจะต้องการในปริมาณเล็กน้อย แต่ร่างกายก็ไม่สามารถสังเคราะห์เองได้เพียงพอ และต้องได้รับจากกินอาหาร ซึ่งการตั้งชื่อของวิตามินนั้น เรียกชื่อสัมพันธ์กับธรรมชาติทางเคมี และอาจรวมถึงแหล่งกำเนิดและหน้าที่ด้วย เช่น วิตามิน A หรือ เรตินอล มีหน้าที่ใน Retina ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญในดวงตา จึงช่วยเรื่องการมองเห็น

ส่วนวิตามินบี มีการแยกย่อยลงไปอีกหลายตัวโดยมีการใช้ตัวเลขกำกับ แต่ละตัวก็มีชื่อเต็มทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งบางตัวชื่อเต็มเป็นที่รู้จักมากกว่า เช่น กรดโฟลิก หรือ โฟเลต หรือวิตามินบี 9 ที่ช่วยรักษาอาการโลหิตจาง และบำรุงผิว ผม เล็บ เราลองมาดูกันว่าถ้าอยากได้รับวิตามินบีอย่างครบถ้วนนั้น จะรับวิตามินบีได้จากอะไรบ้าง

วิตามินบี 1 หรือไทอามีน (Thiamin) มีในเนื้อหมู ข้าวซ้อมมือ ผัก มันฝรั่ง ตับ ไข่ ช่วยเรื่องระบบประสาท บำรุงกล้ามเนื้อ ระบบหัวใจ รักษาอาการเหน็บชา

วิตามินบี 2 หรือไรโบเฟลวิน (riboflavin) มีในผลิตภัณฑ์นม กล้วย ถั่วสีเขียว หน่อไม้ฝรั่ง ช่วยบำรุงผิว เล็บ ผม ช่วยเรื่องการมองเห็น ลดความล้าของสายตา ส่งเสริมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ และบรรเทาอาการไมเกรน

วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน (Niacin) มีมากในเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ เห็ด ผักหลายชนิด ช่วยระบบย่อยอาหาร เผาผลาญไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์

วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid) มีในเนื้อสัตว์ บรอกโคลี อาโวคาโด ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ป้องกันอาการอ่อนเพลีย

วิตามินบี 6 หรือไพริด็อกซีน (Pyridoxine) มีในเนื้อสัตว์ ผัก ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียว กล้วย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ป้องกันโรคนิ่วในไต โรคผิวหนังและโรคระบบประสาท

วิตามินบี 7 หรือไบโอติน (Biotin) มีในไข่แดงดิบ ตับ ถั่วลิสง ผักใบเขียว เป็นตัวร่วมช่วยเร่งปฏิกิริยา หรือโคเอนไซม์ (coenzyme) ให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ได้ดีขึ้น บำรุงผิว ผม เล็บ เซลล์ประสาทและไขกระดูก บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

วิตามินบี 9 หรือโฟเลต/กรดโฟลิก (Folate/Folic Acid) มีในผักใบเขียว ขนมปัง ธัญพืช ตับ ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ ป้องกันร้อนใน อาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ รักษาโรคโลหิตจาง

วิตามินบี 12 หรือโคบาลามิน (Cobalamin) มีในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ช่วยเรื่องระบบประสาท อเพิ่มความจำ สมาธิ ลดความเครียดอหงุดหงิดอช่วยเปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงานให้ร่างกายนำไปใช้ได้ดีขึ้น

เหล่านี้คือตัวอย่างแหล่งอาหารที่ว่าวิตามินบีได้จากอะไรบ้าง ซึ่งหากกล่าวโดยสรุปอาหารบางชนิดมีวิตามินบีอยู่หลายประเภท เช่น เนื้อสัตว์ มีทั้งวิตามินบี 1, 3, 5, 6, 12 ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายรับวิตามินบีให้ครบทุกตัว อย่างน้อยต้องกินวิตามินบีได้จากอะไรที่เป็นเนื้อสัตว์ ผักใบเขียว ไข่ และนม

แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาเลือกสรรเมนูมากนัก การกินผลิตภัณฑ์วิตามินบีรวมคอมเพล็กซ์ เสริมอาหารก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และช่วยให้สุขภาพดีโดยร่างกายไม่ขาดวิตามิน