ภาวะหนังตาตก ตาจมหรือยื่น และผลกระทบของอาการนี้
เปลือกตาเป็นชั้นบางๆ ของผิวหนังที่ปิดตา เป็นที่รู้จักกันว่าเยื่อบุตาบน เปลือกตาเป็นชั้นบางๆ ของผิวหนังที่ปิดตา เป็นที่รู้จักกันว่าเยื่อบุตาบน เปลือกตาประกอบด้วย 2 ชั้น ชั้นนอกเรียกว่า tarsal plate และชั้นในเรียกว่า palpebral conjunctiva เปลือกตามีหน้าที่ปกป้อง ทำให้อบอุ่น และทำให้ดวงตาชุ่มชื้น รวมทั้งรักษาความสะอาดจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ นอกจากนี้ยังป้องกันแสงไม่ให้เข้ามา ซึ่งช่วยรักษาการปรับตัวในความมืดของมนุษย์และสัตว์ระหว่างการนอนหลับหรือเมื่อนอนหลับกลางแจ้งในเวลากลางคืน หนังตาตกเป็นภาวะทางการแพทย์ที่เปลือกตาหย่อน ทำให้ตาดูจมหรือยื่นออกมา หนังตาตกชนิดที่พบบ่อยที่สุดเรียกว่าหนังตาตกส่วนบน และอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น การบาดเจ็บ การติดเชื้อ หรือการเจ็บป่วย หนังตาตกอาจเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือบริเวณคอ หนังตาตกประเภทนี้มักเรียกว่าหนังตาตกจากบาดแผล และอาจทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นและปวดศีรษะเนื่องจากแรงกดบนเส้นประสาทตา การรักษาตาตกเป็นขั้นตอนทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูความสูงของเปลือกตาและการมองเห็น ขั้นตอนทำโดยใช้ไหมเย็บแผลหรือกาวผ่าตัด โดยปกติจะทำภายใต้การดมยาสลบ การรักษาภาวะตาพร่ามัวมักทำกับผู้ป่วยโรคเกรฟส์ ซึ่งทำให้เกิดโรคตาเคลื่อนเร็ว (REM) ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ภาวะอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้ดวงตาหย่อนคล้อย ได้แก่ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เนื้องอกในสมอง และโรคหลอดเลือดสมอง อาการตาพร่ามัวอาจเกิดจากกล้ามเนื้อกระตุกระหว่างการนอนหลับเป็นอัมพาตในระยะ REM หรือจากเนื้องอกที่เปลือกตาที่เติบโตบนลูกตา ผลกระทบของหนังตาตกมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อการมองเห็นและชีวิตประจำวันของบุคคล ในกรณีที่รุนแรง หนังตาตกอาจทำให้เห็นภาพซ้อนและถึงขั้นตาบอดได้ การรักษาภาวะหนังตาตกมักเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขหนังตาตก การรักษาอื่นๆ อาจรวมถึงยาหยอดตาหรือยาที่ช่วยให้กล้ามเนื้อเปลือกตาแข็งแรงหรือลดความเสียหายของเส้นประสาท