สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ในวันที่เริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ใครจะไปล่วงรู้ว่าเราจะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร ทุกคนต่างก็คิดว่าความเจ็บป่วยนั้นเป็นเรื่องห่างไกลตัว แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เราสามารถเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ และการป้องกัน และเตรียมพร้อมในด้านค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้น ก็เป็นการวางแผนทางการเงินที่รอบคอบ และการหาข้อมูลเพื่อทำการเปรียบเทียบประกันสุขภาพนั้นก็สำคัญ  อันดับแรกนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าประกันสุขภาพคืออะไรกัน บางคนอาจจะไม่ทราบว่า ประกันสุขภาพคือการที่บริษัทที่รับประกันนั้น ๆ จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัย ในด้านค่ารักษาพยาบาลจากอาการเจ็บป่วยและอุบัตินั่นเอง


ประกันสุขภาพมีกี่แบบ เราสามารถจำแนกประกันสุขภาพออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ
1. การประกันสุขภาพส่วนบุคคล
2. การประสุขภาพกลุ่ม จำนวนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป


โดยประกันทั้งสองแบบนั้นอันที่จริงแล้วให้ความคุ้มครองที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลย โดยหลัก ๆ แล้วจะคุ้มครองในส่วนของ ค่าห้องพัก ค่าบริการ ค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายจากการผ่าตัด ค่าแพทย์ค่ารักษาในแผนกผู้ป่วยนอก และการจ่ายค่าชดเชยต่าง ๆ และหากเปรียบเทียบประกันสุขภาพแล้วนั้น ก็ต่างกันเพียงแค่ที่จำนวนของผู้เอาประกันเท่านั้น


OPD และ IPD คืออะไร แล้วคุ้มครองแค่ไหน
ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ ควรเปรียบเทียบประกันสุขภาพ ที่เหมาะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรามากที่สุดเสมอ และการเปรียบเทียบประเภทการรักษาแบบ OPD และ IPD แล้วทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้


OPD คือ Out-Patient Department หรือผู้ป่วยนอก โดยเน้นการรักษาที่ไม่มีความจำเป็นต้องนอนรับการรักษาที่โรงพยาบาล แค่เพียงแพทย์ ทำการตรวจวินิจฉัย จ่ายยา ก็สามารถกลับบ้านได้เลย อาการป่วยทั่ว ๆ ไป เช่น ปวดหัว มีไข้ ท้องเสีย อาการแพ้ ผดผื่น คัน ต่าง ๆ


IPD คือ In-Patient Department หรือผู้ป่วยใน ที่มีความจำเป็นจะต้องรับการรักษาโดยการนอนที่โรงพยาบาลนานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป และจะเข้ารับการรักษาตามคำวินิจฉัยของแพทย์จนกว่าแพทย์จะพิจารณาให้กลับได้ โดยประกันสุขภาพส่วนใหญ่ มักครอบคลุมค่ารักษาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่เราพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เช่น ค่าห้องพัก ค่าผ่าตัดต่าง ๆ รวมไปถึงค่าชดเชยรายวันอีกด้วย


โดยส่วนใหญ่ประกันสุขภาพส่วนใหญ่ มักให้ความสำคัญกับการเลือกจ่ายเบี้ย IPD มากกว่า แต่อันที่จริงแล้ว ผู้เอาประกันหลาย ๆ ท่านนั้น ด้วยลักษณะการประกอบอาชีพ หรือลักษณะการใช้ชีวิตนั้นเหมาะ มักอาจจะเจ็บป่วย ด้วยโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือประสบอุบัติเหตุขนาดเล็กเป็นส่วนมาก ดังนั้นจึงเข้าข่ายการเป็นผู้ป่วยนอก หรือ OPD มากกว่า ทีนี้จะเลือกเน้นทำประกันแบบไหนดีระหว่าง OPD และ IPD หาก เปรียบเทียบประกันสุขภาพ แล้วนั้นเราจะพบว่ามีหลายแผนมากที่สามารถให้เราเลือกจัดสรรความคุ้มครองให้ครอบคลุมทั้งสองอย่างได้ โดยไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง