อดีตแกนนำ กปปส. ตรัง แจงถอนรายชื่อจากการเป็น กปปส.
ตรังไทม์ // เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่ศาลากลาง จ.ตรัง นายปรีดิ์ปราโมทย์ เลิศวรภัทร อดีตแกนนำ กปปส. จ.ตรัง ในฐานะแกนนำกองทัพประชาชนของพระราชา ได้ยื่นหนังสือต่อสื่อมวลชน จ.ตรัง เพื่อแถลงยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อสู้กับระบอบทักษิณ ตามแนวทางสันติและอหิงสา และยังคงให้การสนับสนุนแนวทางการต่อสู้เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยก่อนมีการเลือกตั้ง โดยขอยืนยันว่ายังคงเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส. อยู่เช่นเดิม แต่ขอเปลี่ยนชื่อ จาก กปปส.จ.ตรัง เป็นกองทัพประชาชนของพระราชา และไม่ได้มีการแตกแยกกันแต่อย่างใด
นายปรีดิ์ปราโมทย์ ได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อในการเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณ ว่า เนื่องจาก ทางคณะกรรมการของ กปปส.จ.ตรัง หรือกองทัพประชาชนของพระราชา ได้ส่งรายชื่อคณะกรรมการของเวทียังไปยังเวที กปปส. ส่วนกลางหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้รับการประกาศรับรองลงมา และมีรายงานข่าวเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่เคยมาขึ้นเวทีบางคน พยายามเข้ามาฉกฉวยโอกาสแทรกแซง เพื่อให้ตนเองและคณะซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนเวทีชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่หน้าศาลากลาง จ.ตรัง ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็น กปปส. จ.ตรัง แทน ซึ่งทางคณะกรรมการ กปปส. จ.ตรัง ชุดเดิม เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะยังมีคณะทำงานอีกหลายส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนกับเวที จ.ตรังมาโดยตลอด และได้แบ่งความหน้าที่ความรับผิดชอบกันมาตั้งแต่ต้น จึงมีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรจะถอนการยื่นรายชื่อเพื่อขอเป็น กปปส.จ.ตรัง เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ว่า เราทำเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงและไม่ได้หวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด
อดีตแกนนำ กปปส. จ.ตรัง เผยว่า หลังจากนี้ หากทาง กปปส. ส่วนกลางได้มีการพิจารณารายชื่อและเสนอให้พวกตนเข้าเป็น กปปส.จ.ตรัง อีกครั้ง ก็จะต้องมาพิจารณาอีกที ซึ่งจะกลับไปรับหน้าที่เดิมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยคือ มติของ กปปส.ส่วนกลาง มติของคณะกรรมการ เวที จ.ตรัง และสำคัญที่สุดคือ มติของพี่น้องประชาชน หากมวลชนต้องการให้กลับไปรับหน้าที่เดิม ก็ยินดีที่จะเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนคนที่จะเข้ามาเป็น กปปส. ตรัง ในตอนนี้มีใครบ้างนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่เชื่อว่าหากมีบุคคลอื่นเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนตนจริงก็น่าจะสานงานต่อได้ดี ไม่น่าจะมีปัญหา
นายปรีดิ์ปราโมทย์ กล่าวถึง การเคลื่อนไหวในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่า ทางกลุ่มแกนนำของ จ.ตรัง จะมีการเดินทางไปที่เวทีราชดำเนินตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. และเดินทางกลับ ในวันที่ 25 ธ.ค. โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมคนไปประมาณ 150 คน โดยใช้งบประมาณตามที่มีอยู่ ซึ่งผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้จะต้องพักค้างแรมตามที่แกนนำเป็นผู้กำหนดให้เท่านั้น ส่วนผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีราชดำเนินด้วยนั้น ตนขอความร่วมมือให้ออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เพราะขณะนี้ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ได้เข้ามาตรวจสอบผู้ให้การสนับสนุน ทางกลุ่มแกนนำจึงไม่สามารถจัดเตรียมรถไว้บริการเหมือนที่ผ่านมาได้
ขณะนี้ มีผู้แจ้งความประสงค์ว่าจะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ แล้วประมาณ 3,000 คน โดยมีผู้นำท้องถิ่นในแต่ท้องที่เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวมั่นใจว่า แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องของการจัดรถในการเดินทางไปร่วมกับเวทีส่วนกลาง แต่ก็ไม่ทำให้มวลชนที่ต้องการล้างระบอบทักษิณลดน้อยลงไปได้ ครั้งที่แล้วมีมวลชนมารวมตัวกัน 5 ล้านคน ครั้งนี้ต้องมากัน 10 ล้านคนได้แน่นอน ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมกับเวทีส่วนกลางได้ ก็ขอให้ออกมาชุมนุมกันที่ศาลากลาง จ.ตรัง ในวันที่ 22 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป เพื่อร่วมแสดงพลังในการขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทยโดยพร้อมเพรียงกัน” นายปรีดิ์ปราโมทย์ กล่าว. อดีตแกนนำ กปปส. ตรัง แจงถอนรายชื่อจากการเป็น กปปส.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่ศาลากลาง จ.ตรัง นายปรีดิ์ปราโมทย์ เลิศวรภัทร อดีตแกนนำ กปปส. จ.ตรัง ในฐานะแกนนำกองทัพประชาชนของพระราชา ได้ยื่นหนังสือต่อสื่อมวลชน จ.ตรัง เพื่อแถลงยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อสู้กับระบอบทักษิณ ตามแนวทางสันติและอหิงสา และยังคงให้การสนับสนุนแนวทางการต่อสู้เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยก่อนมีการเลือกตั้ง โดยขอยืนยันว่ายังคงเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส. อยู่เช่นเดิม แต่ขอเปลี่ยนชื่อ จาก กปปส.จ.ตรัง เป็นกองทัพประชาชนของพระราชา และไม่ได้มีการแตกแยกกันแต่อย่างใด
นายปรีดิ์ปราโมทย์ ได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อในการเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณ ว่า เนื่องจาก ทางคณะกรรมการของ กปปส.จ.ตรัง หรือกองทัพประชาชนของพระราชา ได้ส่งรายชื่อคณะกรรมการของเวทียังไปยังเวที กปปส. ส่วนกลางหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้รับการประกาศรับรองลงมา และมีรายงานข่าวเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่เคยมาขึ้นเวทีบางคน พยายามเข้ามาฉกฉวยโอกาสแทรกแซง เพื่อให้ตนเองและคณะซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนเวทีชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่หน้าศาลากลาง จ.ตรัง ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็น กปปส. จ.ตรัง แทน ซึ่งทางคณะกรรมการ กปปส. จ.ตรัง ชุดเดิม เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะยังมีคณะทำงานอีกหลายส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนกับเวที จ.ตรังมาโดยตลอด และได้แบ่งความหน้าที่ความรับผิดชอบกันมาตั้งแต่ต้น จึงมีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรจะถอนการยื่นรายชื่อเพื่อขอเป็น กปปส.จ.ตรัง เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ว่า เราทำเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงและไม่ได้หวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด
อดีตแกนนำ กปปส. จ.ตรัง เผยว่า หลังจากนี้ หากทาง กปปส. ส่วนกลางได้มีการพิจารณารายชื่อและเสนอให้พวกตนเข้าเป็น กปปส.จ.ตรัง อีกครั้ง ก็จะต้องมาพิจารณาอีกที ซึ่งจะกลับไปรับหน้าที่เดิมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยคือ มติของ กปปส.ส่วนกลาง มติของคณะกรรมการ เวที จ.ตรัง และสำคัญที่สุดคือ มติของพี่น้องประชาชน หากมวลชนต้องการให้กลับไปรับหน้าที่เดิม ก็ยินดีที่จะเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนคนที่จะเข้ามาเป็น กปปส. ตรัง ในตอนนี้มีใครบ้างนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่เชื่อว่าหากมีบุคคลอื่นเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนตนจริงก็น่าจะสานงานต่อได้ดี ไม่น่าจะมีปัญหา
นายปรีดิ์ปราโมทย์ กล่าวถึง การเคลื่อนไหวในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่า ทางกลุ่มแกนนำของ จ.ตรัง จะมีการเดินทางไปที่เวทีราชดำเนินตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. และเดินทางกลับ ในวันที่ 25 ธ.ค. โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมคนไปประมาณ 150 คน โดยใช้งบประมาณตามที่มีอยู่ ซึ่งผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้จะต้องพักค้างแรมตามที่แกนนำเป็นผู้กำหนดให้เท่านั้น ส่วนผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีราชดำเนินด้วยนั้น ตนขอความร่วมมือให้ออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เพราะขณะนี้ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ได้เข้ามาตรวจสอบผู้ให้การสนับสนุน ทางกลุ่มแกนนำจึงไม่สามารถจัดเตรียมรถไว้บริการเหมือนที่ผ่านมาได้
ขณะนี้ มีผู้แจ้งความประสงค์ว่าจะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ แล้วประมาณ 3,000 คน โดยมีผู้นำท้องถิ่นในแต่ท้องที่เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวมั่นใจว่า แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องของการจัดรถในการเดินทางไปร่วมกับเวทีส่วนกลาง แต่ก็ไม่ทำให้มวลชนที่ต้องการล้างระบอบทักษิณลดน้อยลงไปได้ ครั้งที่แล้วมีมวลชนมารวมตัวกัน 5 ล้านคน ครั้งนี้ต้องมากัน 10 ล้านคนได้แน่นอน ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมกับเวทีส่วนกลางได้ ก็ขอให้ออกมาชุมนุมกันที่ศาลากลาง จ.ตรัง ในวันที่ 22 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป เพื่อร่วมแสดงพลังในการขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทยโดยพร้อมเพรียงกัน” นายปรีดิ์ปราโมทย์ กล่าว.
Cr. // fb : trangtimes (นสพ. ตรังไทม์)
Relate topics
- 10 อันดับ วิธี บิ้วด์ฮอร์โมนเพศชายให้เป็นหนุ่มสุขภาพดี แก่ช้า ไม่ลงพุง10 อันดับ วิธี บิ้วด์ฮอร์โมนเพศชายให้เป็นหนุ่มสุขภาพดี แก่ช้า ไม่ลงพุง หนุ่มคนไหนอยากมีสุขภาพแข็งแรง เป็นหนุ่มนานๆ มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ต้องตาติดใจสาวๆ ฟังทางนี้ เพียงทำตาม 10 วิธีที่เรากำลังจะบอกก
- ญี่ปุ่นเตือนภัยเห็บมรณะคร่าชีวิตคนแล้ว 21 ศพสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่26 ก.พ.ว่าศูนย์ควบคุมโรคของญี่ปุ่นออกประกาศเตือนให้ประชาชนใน23 จังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ตั้งแต่เกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือจนถึงเกาะคิวชูทางตอนใต
- สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จัดงานวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า พร้อมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแผนรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่บริเวณโรงวันนี้ (20 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนบ้านนาปรัง ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า
- กรมเจ้าท่าทำเขื่อนป้องกันคลีื่นกัดเซาะชายหาดที่กะเปอร์ จ.ระนองระนอง - กรมเจ้าท่าฯ รับฟังความเห็นสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายหาดที่บ้านอ่าวเคย อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ที่ถูกกัดเซาะขั้นรุนแรง ที่ดินทำกินของชาวบ้านหายไปหลายสิบไร่ นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีก
- ระวังไฟการเมืองจากกรุงเทพฯ ลุกลามสู่ “สงครามศาสนา” ในแผ่นดินไฟใต้ / ไชยยงค์ มณีพิลึกระวังไฟการเมืองจากกรุงเทพฯ ลุกลามสู่ “สงครามศาสนา” ในแผ่นดินไฟใต้ คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้ โดย...ไชยยงค์ มณีพิลึก สถานการณ์ความรุนแรงยังเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภา
- รายการเล่าเรื่องเมืองใต้ ตอน เที่ยวตามตำนานหาดส้มแป้น ช่วงที่ 1 03 02 56รายการเล่าเรื่องเมืองใต้ ตอน เที่ยวตามตำนานหาดส้มแป้น ช่วงที่ 1 03 02 56 Cr.
- ประโยชน์ของไข่เมื่อกินในตอนเช้า....ประโยชน์ของไข่เมื่อกินในตอนเช้า....