ไข้เลือดออก คืออะไร เข้าใจสาเหตุ อาการ และการป้องกัน
ในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำขังตามแหล่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอ่างน้ำ กระถางต้นไม้ หรือยางรถยนต์เก่า สิ่งที่มักตามมาคือ "ยุงลาย" ซึ่งเป็นพาหะนำโรคสำคัญอย่าง ไข้เลือดออก ซึ่งคือโรคที่อาจฟังดูเหมือนทั่วไป แต่ความจริงแล้วสามารถรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย การทำความเข้าใจโรคไข้เลือดออกจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรตระหนักและเรียนรู้ไว้เพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้าง
ไข้เลือดออก คืออะไร?
ไข้เลือดออก (Dengue Fever) คือโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ (DEN-1, DEN-2, DEN-3 และ DEN-4) ผู้ที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์หนึ่งแล้วหาย ยังสามารถกลับมาติดสายพันธุ์อื่นได้อีก และมีโอกาสเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น โดยโรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดของยุงลาย
สาเหตุของโรคไข้เลือดออก
สาเหตุของโรคไข้เลือดออก คือเกิดจากการถูกยุงลายตัวเมียที่มีเชื้อไวรัสเดงกีกัด ยุงลายเหล่านี้มักจะออกหากินในช่วงเวลสากลางวัน โดยเฉพาะตอนเช้าและบ่าย ยุงจะได้รับเชื้อจากการดูดเลือดผู้ที่มีเชื้อไวรัส และเมื่อกัดคนอื่นก็จะส่งเชื้อไปยังร่างกายของเหยื่อรายใหม่ ทำให้เกิดการติดเชื้อและแสดงอาการตามมา
อาการของไข้เลือดออก
อาการของไข้เลือดออกจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
1.ระยะไข้สูง
-ไข้ขึ้นสูงทันทีแบบเฉียบพลัน 39–41 องศาเซลเซียส
-ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อและข้อ
-เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
2.ระยะวิกฤต (ระยะช็อก)
-ไข้ลดลงอย่างรวดเร็วแต่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการแย่ลง
-มีเลือดออกใต้ผิวหนัง จุดเลือดออกตามร่างกาย เลือดกำเดา หรืออาเจียนเป็นเลือด
-ความดันโลหิตต่ำ ตัวเย็น มือเท้าเย็น
-หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาจช็อกหรือเสียชีวิตได้
3.ระยะฟื้นตัว
-ไข้เริ่มลดลง ร่างกายฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ
-อาการต่าง ๆ ทุเลาลงภายใน 7-10 วัน
การป้องกันไข้เลือดออก
1.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
-เทน้ำขังในภาชนะรอบบ้าน
-เปลี่ยนน้ำในแจกันหรือถาดรองกระถางทุก 7 วัน
-ปิดฝาภาชนะเก็บน้ำให้มิดชิด
2.ป้องกันการถูกยุงกัด
-สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
-ทายากันยุง ใช้สเปรย์หรือเครื่องไล่ยุง
-นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด
3.ติดตามข้อมูลและคำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุข
-เมื่อมีอาการต้องสงสัย ควรรีบพบแพทย์ทันที
-หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพรินหรือยาลดไข้ที่อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น เช่น ยาไอบูโพรเฟน
ไข้เลือดออกเป็นโรคร้ายที่สามารถป้องกันได้ หากรู้ทันสาเหตุและอาการเบื้องต้น การใส่ใจสุขอนามัยในบ้านและป้องกันการถูกยุงกัดเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกในครอบครัว ชุมชน หรือสถานที่ทำงาน จะช่วยเสริมเกราะป้องกันให้สังคมปลอดภัยจากภัยเงียบนี้ได้ในระยะยาว