สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

วิถีชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานและการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การพัฒนาซอฟต​์แวร์จึงกลายเป็นธุรกิจที่สำคัญและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การจะได้มาซึ่งซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพนั้น ถือเป็นหน้าที่สำคัญของ Software Tester ที่เป็นผู้คอยตรวจสอบและรับประกันว่าซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ จึงทำให้อาชีพ Software Tester มีความสำคัญไม่แพ้ Software Developer และเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน

Software Tester คืออะไร?

Software Tester หรือ เทสเตอร์ คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพและความถูกต้องของระบบซอฟต์แวร์ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับผู้ใช้งานจริง โดยหน้าที่ของ Software Tester คือ การทดสอบระบบในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การทำงานพื้นฐานไปจนถึงการทดสอบในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เพื่อค้นหาข้อผิดพลาด (bugs) และปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบ การมี Software Tester ในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์นั้นมีประโยชน์อย่างมาก

1. ลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดหลังจากที่ซอฟต์แวร์ถูกนำไปใช้งานจริง

2. ประหยัดต้นทุนในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะการเทสระบบและแก้ไขปัญหาก่อนที่ซอฟต์แวร์จะถูกใช้งานจริงมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการแก้ไขปัญหาหลังจากที่ระบบถูกใช้งานไปแล้ว

3. สร้างความมั่นใจให้กับทีมพัฒนาและผู้ใช้งานว่าซอฟต์แวร์มีคุณภาพและพร้อมสำหรับการใช้งานจริง

4. ช่วยในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านการให้ข้อเสนอแนะและการค้นพบจุดที่สามารถปรับปรุงได้

Software Tester ควรเรียนรู้ทักษะด้านใดบ้าง?

สำหรับผู้ที่สนใจจะก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพ Software Tester หรือ Software testing นั้น จำเป็นต้องมีทักษะที่หลากหลายเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่กำลังตามหางาน Tester ไม่มีประสบการณ์ หรือกำลังเริ่มต้น ควรเริ่มจากการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นดังนี้ * ความรู้พื้นฐานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเข้าใจกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Life Cycle - SDLC) และกระบวนการพัฒนาแบบต่าง ๆ เช่น Agile หรือ Waterfall เป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้เข้าใจบริบทของงานและสามารถวางแผนการทดสอบได้อย่างเหมาะสม * ทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น แม้ว่า Software Tester จะไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเหมือนนักพัฒนา แต่การมีความรู้พื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมจะช่วยในการเข้าใจระบบ การอ่านโค้ด และการเขียน test script สำหรับการทดสอบอัตโนมัติ ภาษาที่ควรรู้เบื้องต้น ได้แก่ Python, Java หรือ JavaScript * ความรู้ด้านเครื่องมือทดสอบระบบ เครื่องมือทดสอบอัตโนมัติและเครื่องมือจัดการการทดสอบต่างๆ เช่น Selenium, JUnit, TestNG, Jenkins, JIRA เป็นสิ่งที่ Software Tester ควรเรียนรู้และฝึกฝนการใช้งาน เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน * ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา การทดสอบซอฟต์แวร์ต้องอาศัยความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหา การคิดอย่างเป็นระบบ และการมองหาจุดที่อาจเกิดข้อผิดพลาด รวมถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า * ทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม Software Tester หรือ Test Engineer คือ ตำแหน่งที่ต้องทำงานร่วมกับทีมพัฒนา ผู้จัดการโครงการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ดังนั้นการมีทักษะการสื่อสารที่ดี ทั้งการพูดและการเขียน จึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงความสามารถในการทำงานเป็นทีมและการจัดการความสัมพันธ์กับผู้อื่น

Software Tester มีหน้าที่อะไร

Software Tester ทำอะไรบ้าง เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการเริ่มต้นและยังไม่รู้ว่าอาชีพ Tester คืออะไร เรามาทำความเข้าใจหน้าที่หลักของ Software Tester กัน การทำงานของ Software Tester นั้นเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนไปจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ หน้าที่หลักของ QA Tester คือการตรวจสอบคุณภาพของซอฟต์แวร์ในทุกขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการทดสอบฟังก์ชันการทำงาน ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเสถียรของระบบ

การเทสงาน คือกระบวนการที่ต้องทำอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน โดย Software Tester จะต้องดำเนินการดังนี้:

1. วิเคราะห์และวางแผนการทดสอบ โดยศึกษาความต้องการของระบบ (Requirements) และออกแบบกรณีทดสอบ (Test Cases) ที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

2. สร้างและดูแลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ เช่น แผนการทดสอบ (Test Plan), กรณีทดสอบ (Test Cases), รายงานข้อผิดพลาด (Bug Reports) และรายงานผลการทดสอบ (Test Reports)

3. ดำเนินการทดสอบระบบในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการทดสอบด้วยมือ (Manual Testing) และการทดสอบอัตโนมัติ (Automated Testing) เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

4. ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาที่พบ โดยการรายงานข้อผิดพลาด อธิบายวิธีการทำให้เกิดปัญหา และทดสอบซ้ำหลังจากที่มีการแก้ไข

5. ให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยใช้ประสบการณ์และความเข้าใจในมุมมองของผู้ใช้งาน

ความแตกต่างของ Software Tester กับ QA

ถึงแม้ว่า Software Tester และ QA Tester จะมีเป้าหมายร่วมกันในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ เช่น

• ขอบเขตการทำงาน QA จะมองภาพรวมของกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งหมด รวมถึงการวางแผนและการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ในขณะที่ Software Tester จะเน้นที่การทดสอบตัวผลิตภัณฑ์โดยตรง

• จุดเน้นในการทำงาน Software Tester จะเน้นการค้นหาข้อผิดพลาดและทดสอบฟังก์ชันการทำงานของซอฟต์แวร์ ส่วน QA จะเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดตั้งแต่ต้น โดยการปรับปรุงกระบวนการพัฒนา

• ช่วงเวลาการทำงาน Software Tester จะเริ่มทำงานหลังจากที่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ออกมาแล้ว แต่ QA จะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนและเข้ามามีส่วนร่วมตลอดทั้งกระบวนการพัฒนา

Software Tester บุคลากรคนสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์

Software Tester เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาซอฟต์แวร์ในยุคปัจจุบัน โดยเป็นผู้ที่ช่วยรับประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ก่อนถึงมือผู้ใช้งาน ด้วยการทดสอบที่ครอบคลุมและเป็นระบบ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพนี้ ควรเริ่มจากการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งด้านเทคนิคและทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยตำแหน่ง tester เงินเดือนมีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสเติบโตในสายอาชีพสูง เนื่องจากความต้องการ Software Tester ที่มีคุณภาพยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน