สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

บำรุงรักษาแอร์อย่างไร ให้เครื่องปรับอากาศเย็นตลอดปี

ปัญหาเรื่องแอร์ ถือเป็นปัญหาที่ทุกบ้านต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นแอร์เสีย แอร์ไม่เย็น รวมถึงแอร์กินไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ จำเป็นต้องบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี

เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แอร์ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้แอร์ใช้งานได้ยาวนาน จำเป็นต้องบำรุงรักษาอยู่เสมอ หากกำลังมองหาร้านขายแอร์ หรือช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเรียนรู้วิธีบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ลดปัญหาเกี่ยวกับแอร์ลงได้

บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแอร์ เริ่มตั้งแต่วิธีการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศที่ถูกต้อง ปัญหาที่เกิดจากการไม่บำรุงรักษาแอร์ปรับอากาศ รวมถึงข้อดีของการเลือกแอร์บ้านให้เหมาะกับการใช้งาน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ เพื่อยืดอายุแอร์ติดผนังให้ยาวนานยิ่งขึ้น

วิธีการบำรุงรักษาแอร์ที่ถูกต้อง

การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ ช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งาน ทั้งยังประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว ด้วยราคาแอร์บ้านถึงหลักหมื่น ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ดังนั้นการตรวจสอบแอร์ติดบ้านเป็นระยะ จะช่วยประหยัดค่าจ่ายส่วนนี้ไปได้ เพราะการตรวจสอบไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการบำรุงรักษาแอร์ เครื่องปรับอากาศที่ถูกต้อง สามารถนำไปใช้ได้จริง

ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ

แผ่นกรองอากาศเป็นส่วนช่วยกรองฝุ่นละออง รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเป็นประจำ จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสะสมของฝุ่นภายในแอร์

ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง

ท่อน้ำทิ้งมีหน้าที่ระบายน้ำทิ้งจากAir Condition หากท่อน้ำทิ้งอุดตัน อาจทำให้เกิดน้ำรั่วซึม ส่งผลต่อการทำงานของแอร์ได้ ต้องตรวจสอบและทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งเป็นประจำ

ตรวจสอบระดับน้ำยาทำความเย็น

น้ำยาทำความเย็นเป็นสิ่งที่ใช้ถ่ายเทความร้อน หากระดับน้ำยาทำความเย็นต่ำเกินไป จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยปกติระบบทำความเย็นเป็นระบบปิด ถ้าน้ำยาแอร์ลดลง แสดงว่าต้องมีจุดรั่วซึมอย่างแน่นอน

ตรวจสอบใบพัด

ใบพัดเป็นส่วนที่ทำงานตลอดเวลา การสะสมของฝุ่นละอองจำนวนมาก ส่งผลให้ใบพัดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การทำความสะอาดใบพัด Air Condition เป็นระยะ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะจับใบพัด

เรียกช่างมาซ่อมบำรุง

แม้ว่าจะทำความสะอาดและตรวจสอบเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเอง แต่การเรียกช่างผู้ชำนาญมาตรวจเช็คเป็นประจำทุกปี ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้มั่นใจว่าแอร์ยังคงอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเสมอ

ปัญหาจากการไม่บำรุงรักษาแอร์ มีอะไรบ้าง

ถ้าไม่ได้บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ อาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว โดยมีปัญหาดังนี้

• ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง: ฝุ่นละอองที่สะสมบนแผ่นกรอง รวมถึงคอยล์เย็น จะทำให้การถ่ายเทความร้อนไม่ดี ส่งผลให้แอร์ไม่เย็น
• สิ้นเปลืองพลังงาน: เมื่อเครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนัก เพื่อให้ได้ความเย็นที่ต้องการ จะส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงาน ค่าไฟจึงเพิ่มขึ้น
• เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์: ฝุ่นละอองและเชื้อราสะสมภายในเครื่องปรับอากาศ จะก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้น ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ
• มีเสียงดังผิดปกติ: ชิ้นส่วนภายในเครื่องที่สึกหรอหรือชำรุด อาจทำให้เกิดเสียงดังขณะทำงาน
• น้ำรั่ว: ท่อน้ำทิ้งอุดตัน เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำรั่วซึม ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน
• อายุการใช้งานสั้นลง: การไม่บำรุงรักษาจะทำให้เครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ่อยครั้ง
• เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค: ฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่สะสมภายในเเอร์ อาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หรือโรคอื่น ๆ

การเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีข้อดีอย่างไร

การเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องของความเย็นสบาย แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน อายุการใช้งาน ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซึ่งการเลือกแอร์ตรงกับความต้องการ ช่วยให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์ดังนี้

• ประหยัดพลังงาน: ขนาดแอร์ที่เหมาะสมกับห้องและปริมาณความร้อน จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ช่วยประหยัดค่าไฟได้
• ความเย็นสบายทั่วถึง: เครื่องปรับอากาศขนาดพอเหมาะ จะทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง
  
• ยืดอายุการใช้งาน: เมื่อแอร์ติดผนังทำงานได้อย่างเหมาะสม ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะสึกหรอน้อยลง ยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
• ลดเสียงดัง: แอร์ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างเสียงรบกวนน้อยลง ทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบ
• ลดปัญหาสุขภาพ: การเลือกแอร์คุณภาพดีและมีฟังก์ชั่นการกรองอากาศ ช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากฝุ่นละออง หรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
• คืนทุนเร็ว: แม้ว่าแอร์ประสิทธิภาพสูงอาจมีราคาแพงกว่า แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น คุ้มค่ากับการลงทุน
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดพลังงาน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

การเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะได้รับความเย็นสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตรวจสอบ BTU แอร์ก่อนตัดสินใจซื้อ

BTU หรือ British Thermal Unit คือหน่วยวัดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ การเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง เพราะหากเลือกขนาดเล็กเกินไป แอร์ติดผนังจะทำงานหนักเกินไป ทั้งไม่สามารถทำความเย็นได้ทั่วถึง แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินไป จะสิ้นเปลืองพลังงานราคาเครื่องปรับอากาศก็สูงตามไปด้วยและทำให้เกิดความชื้นในห้องได้

ปัจจัยต่าง ๆ ที่ผลให้เกิดความร้อน ได้แก่

• ทิศทางของห้อง: ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะได้รับแสงแดดโดยตรงมากกว่าห้องที่หันหน้าไปทางทิศอื่น จึงต้องเลือกแอร์ที่มี BTU สูงขึ้นเล็กน้อย
• จำนวนคนในห้อง: หากมีคนอยู่ในห้องจำนวนมาก ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU สูงขึ้น
• อุปกรณ์ไฟฟ้า: อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ก็เป็นแหล่งกำเนิดความร้อน

สูตรคำนวณ BTU ให้เหมาะสมคือ BTU = (กว้าง x ยาว) x ตัวแปร

• กว้าง x ยาว: คือพื้นที่ห้อง (หน่วยเป็นตารางเมตร)
• ตัวแปร: คือค่าคงที่ที่ บ่งบอกถึงความร้อนในห้อง โดยประมาณได้ดังนี้
  • 700-750: ห้องนอนทั่วไป
  • 800-900: ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก
  • 900-1000: ห้องครัว ห้องที่โดนแดดจัด

ยกตัวอย่าง ห้องนอนขนาด 4x5 เมตร ไม่โดนแดดมาก ใช้ตัวแปร 700

• BTU = (4 x 5) x 700 = 14,000 BTU

หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก BTU แอร์ขนาดไหน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือพนักงานขาย เพื่อขอคำแนะนำให้เหมาะสมกับความต้องการ

สรุป ความสำคัญของการบำรุงรักษาแอร์

การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มอายุการใช้งาน ทั้งยังประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย ด้วยวิธีบำรุงรักษาที่ถูกต้อง สามารถช่วยลดปัญหาต่าง ๆ เช่น แอร์ไม่เย็น มีเสียงดัง หรือเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจ ว่าอากาศที่ใช้หายใจนั้นสะอาด และปลอดภัยจากเชื้อโรค ควรนำแอร์ติดผนังมาทำความสะอาดแผ่นกรอง ล้างคอยล์เย็น รวมถึงตรวจเช็คระบบไฟฟ้าเป็นประจำ ถือเป็นการลงแรงที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี