สะตอฟอร์ยู ::: สนับสนุนให้คนใต้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น!!!

ตู้เย็นมีกี่แบบ เลือกซื้ออย่างไรถึงจะคุ้มค่า เหมาะกับความต้องการ

by localspeaker @25 พ.ย. 67 22:50 ( IP : 49...172 )

ตู้เย็น

ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญช่วยเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ตู้เย็นเปรียบเสมือนผู้ช่วยคนสำคัญที่คอยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ ยืดอายุอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น และช่วยให้เราสามารถมีอาหารหลากหลายไว้รับประทานได้ตลอดเวลา อีกทั้ง ตู้เย็นยังช่วยลดการสูญเสียอาหารและประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไปได้มากเลยทีเดียว

ตู้เย็นคืออะไร และมีกี่ประเภท?

ตู้เย็น (Refrigerator) หรือตู้แช่เย็น คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้ต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง ทำให้ทั้งอาหารและเครื่องดื่มคงความสดใหม่ได้นานขึ้น ช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดและใหม่อยู่เสมอ โดยหลักการทำงานทำความเย็น คือคอมเพรสเซอร์จะอัดน้ำยาทำความเย็นให้เป็นไอ แล้วปล่อยความร้อนออกไปภายนอก จากนั้นน้ำยาจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวและดูดความร้อนจากภายในตู้เย็น ทำให้อุณหภูมิภายในลดลง โดยแบ่งประเภทของตู้เย็นได้ดังนี้

  • ตู้เย็นเล็ก หรือหลายคนรู้กันดีในชื่อตู้เย็นมินิบาร์ที่มีขนาดเล็กมาก เหมาะสำหรับห้องพักหรือบาร์
  • ตู้เย็น 1 ประตู ขนาดมาตรฐาน มักมีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง เหมาะสำหรับครัวเรือนทั่วไป
  • ตู้เย็น 2 ประตู มีขนาดใหญ่กว่า แบ่งช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งออกจากกันอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง
  • ตู้เย็น Multidoor มีหลายประตู ขนาดใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือร้านอาหาร มีฟังก์ชันหลากหลาย
  • ตู้เย็น Side by Side เป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีประตูสองบานเปิดออกด้านข้าง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือร้านอาหาร มีฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย


    วิธีการเลือกตู้เย็นอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด!

ขนาดตู้เย็น

การเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่อง อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่หากต้องการให้คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน การเลือกให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่าเทคนิคเลือกตู้เย็นต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

1. ขนาดและความจุ การเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่อง นอกจากเรื่องดีไซน์และฟังก์ชันแล้ว ตู้เย็นขนาดต่าง ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะตู้เย็นที่มีขนาดพอดีจะช่วยให้คุณจัดเก็บอาหารได้อย่างเป็นระเบียบ และประหยัดพื้นที่ในครัวไปด้วย

  • จำนวนสมาชิกในบ้าน 1-2 คน ขนาดตู้เย็น 7-13 คิว (200-380 ลิตร)
  • จำนวนสมาชิกในบ้าน 3-4 คน ขนาดตู้เย็น 12-18 คิว (350-530 ลิตร)
  • จำนวนสมาชิกในบ้าน 5 คนขึ้นไป ขนาดตู้เย็น 15 คิวขึ้นไป (440 ลิตรขึ้นไป)

2. การประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีตู้เย็นประหยัดไฟเป็นสิ่งที่ใคร ๆ หลายคนคำนึงถึงเป็นหลักเวลาซื้อตู้เย็น ซึ่งหลายแบรนด์ก็ได้พัฒนาตู้เย็นรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีในเรื่องการประหยัดไฟ ไม่ว่าจะเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่จะปรับกำลังการทำงานของคอมเพรสเซอร์ตามความต้องการ ทำให้ประหยัดไฟมากกว่าตู้เย็นทั่วไป หรือระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะจะช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดเวลา ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และที่สำคัญที่สุดควรเลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดไฟได้มากที่สุด

3. ตู้เย็นที่ทำงานเงียบ เสียงรบกวนจากตู้เย็นสามารถรบกวนการพักผ่อนและการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากห้องครัวอยู่ใกล้ห้องนอน ดังนั้นถ้าบ้านหรือที่พักของคุณไม่อยากให้มีเสียงการทำงานของตู้เย็นมารบกวน แนะนำให้เลือกตู้เย็นที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในเรื่องของความเงียบของการทำงาน และใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เพื่อช่วยให้ทำงานด้วยเสียงเบาแถมช่วยลดการสั่นสะเทือนจากเสียง ทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอน้อยลง

4. กระจายความเย็นอย่างทั่วถึง เลือกตู้เย็นที่คุ้มค่าต้องให้ความสำคัญในเรื่องระบบทำความเย็นที่ออกแบบมาให้ความเย็นกระจายไปทั่วทุกมุมของตู้เย็น ทำให้อาหารทุกชิ้นได้รับอุณหภูมิที่สม่ำเสมอ ช่วยให้อาหารสดใหม่ได้นานขึ้น ยิ่งถ้าคุณต้องการแช่ของในปริมาณที่เยอะอยู่เป็นประจำแล้ว ระบบกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงนี้ทำให้คุณหมดกังวลในเรื่องอาหาร เครื่องดื่มเสียจากการไม่ได้รับความเย็นที่เพียงพอไปได้

5. ฟังก์ชันการทำงานพิเศษ และสุดท้าย การเลือกตู้เย็นที่จะช่วยให้เกิดความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป คือฟังชันการทำงานเพิ่มเติมที่ตู้เย็นรุ่นใหม่ ล่าสุดเริ่มนำเอาเทคโนโลยีพิเศษมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง เช่น เทคโนโลยี NutriFreeze ช่วยแช่แข็งเนื้อสัตว์และปลาที่อุณหภูมิ –3 องศา จึงคงความสดได้ยาวนานขึ้น และรักษาคุณค่าทางโภชนาการ มีฟิลเตอร์ที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี หรือการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิจากช่องแช่เย็นเป็นช่องแข็งอย่างง่ายดาย

ตู้เย็นกับเรื่องที่ไม่ควรทำ

การใช้งานตู้เย็นอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ตู้เย็นของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยให้อาหารของคุณสดใหม่ได้นานขึ้น แต่ถ้าหากใช้งานไม่ถูกวิธี อาจทำให้ตู้เย็นเสียหายได้เร็วขึ้น และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย

  • ตั้งตู้เย็นชิดผนัง ไม่ควรตั้งตู้เย็นชิดผนังเกินไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์ที่อยู่ด้านหลังตู้เย็นระบายความร้อนได้ไม่ดี อาจทำให้ตู้เย็นร้อนเกินไป ควรมีระยะห่างระหว่างตู้เย็นและผนังคือ 10-15 เซนติเมตรขึ้นไป
  • แช่อาหารร้อนจัด การนำอาหารร้อนจัด ๆ เข้าไปแช่ในตู้เย็นทันที จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้เย็นสูงขึ้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น และเมื่อทำเช่นนี้บ่อยครั้งอาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้
  • เปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นาน การเปิดประตูตู้เย็นบ่อยครั้งหรือทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้เย็นสูงขึ้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก และเปลืองพลังงานอีกด้วย
  • แช่อาหารแน่นเกินไป การแช่อาหารในจำนวนที่เกินขนาดของเครื่อง หรือแน่นเกินไปจะทำให้ความเย็นกระจายตัวได้ไม่ทั่วถึง และอาจทำให้อาหารเสียเร็ว
  • ไม่ทำความสะอาดตู้เย็น ถ้าไม่ทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ จะทำให้เกิดคราบสกปรกและเชื้อโรคสะสมได้ ซึ่งอาจทำให้อาหารเสีย และเป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นมีกลิ่นเหม็น

เลือกซื้อตู้เย็นให้พอดีกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

การเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่องนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการตู้เย็นขนาดเล็กและราคาประหยัด ตู้เย็น 1 ประตูก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการตู้เย็นที่แช่ของปริมาณมาก มีฟังก์ชันหลากหลายและจุของได้มาก ตู้เย็น Multidoor หรือ Side by Side ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม นอกจากนี้หากซื้อตู้เย็นมาแล้วอย่าลืมที่จะดูแลรักษาให้ดี และอย่าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำตามที่เราได้แนะนำกันไปด้านบน เพื่อยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นและเพื่อให้ตู้เย็นได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

แสดงความคิดเห็น

« 5787
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง