แกะเก็บข้าว
แกะเก็บข้าว
เครื่องมือเก็บข้าวที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณค่าในการใช้งานรูปร่างคล้าย ๆ เรือ มี ส่วนประกอบสำคัญ ๓ ส่วน ด้วยกันคือ กระดานแกะ ตาแกะ หลอดแกะ หรือด้ามแกะ ตาแกะหรือคมแกะบางถิ่นเรียกว่าตัวแกะ ทำด้วยเหล็กกล้าซึ่งช่างทำแกะนิยมใช้เหล็กสำหรับทำเลื่อยที่เรียกว่า เหล็กคัดเลื่อย ทำเป็นคมคล้ายมีดยาวประมาณ ๕ -๖ เซนติเมตร มีหูแหลม ๆ ๒ ข้าง สำหรับตอกบังกับกระดานแกะ กระดานแกะทำด้วยไม้เนื้อแข็งหรือไม้ชนิดเบา
ช่างทำแกะนิยมใช้ไม้ตีนเป็ดหรือไม้แค เพราะไม้ ๒ ชนิดนี้ มีน้ำหนักเบาไม้แคทนทานกว่าแต่หายากกว่าไม้ตีนเป็ด ทำเป็นรูปสามเหลี่ยมคางหมู มีด้ามยาวตอนบนประมาณ ๕-๖ เซนติเมตร มีด้ามยาวตอนล่างประมาณ ๘ -๙ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ทำเป็นแผ่นหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร ส่วนล่างหนากว่าส่วนบนเล็กน้อย ด้ามแกะทำจากไม้ไผ่เรี้ย บางทีเรียกสั้น ๆ ว่า เรี้ย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๙ -๑๐ เซนติเมตร ที่กึ่งกลางจะเจาะช่องขนาดเท่าความหนาของกระดานแกะ สำหรับผังให้ติดกันแน่น
การเข้าด้ามแกะ นำด้ามแกะที่เจาะช่องเท่ากับความหนาของแกะ มายังกระดานแกะในช่องที่เจาะไว้ โดยให้จุดกึ่งกลางของฐานกระดานอยู่ตรงกลางแนวรูของด้ามแกะใช้เหล็กเจาะ กระดาษแกะใส่ไม้ไผ่ที่เหลาเป็นเส้นเล็ก ๆ เข้าไปในปล้องของไม้ไผ่เรี้ยเพื่อร้อยให้กระดานแกะติดแน่นติดอยู่กับด้ามแกะ
เมื่อจะใช้แกะเก็บข้าว เอาแกะใสเข้าในระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วนาง แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง จับรวงข้าวมาทาบกับคมแกะใช้คมแกะตัดที่คอรวงข้าว แต่ละรวงไปจนหมดส่วนมืออีกข้าหนึ่งใช้จับรวงข้าวที่จับกับแกะจนเต็มกำมือ วางไว้ในที่แห้ง แล้วเก็บต่อไปจนกระทั่งเต็มอีกกำมือหนึ่ง ก็เอามารวมกันตัดต้นข้าวที่เก็บแล้วมาผูกรวงข้าวให้แน่นทำเป็นเลียงข้าว เพื่อนำไปเก็บไว้ในลอมข้าวต่อไป
Relate topics
- มังคุดคัด (มังคุดเสียบไม้) ของดีคู่เมืองนครศรีธรรมราช"มังคุดคัด" เป็นเหมือนของคู่กับวัดมหาธาตุฯ เมืองนครศรีธรรมราชไปซะแล้ว ผ่านไปทีไรก็เป็นอันต้องแวะไปกินมังคุดคัดทุกที มีขายประจำที่วัดมหาธาตุฯ เมืองนคร นี่แหล่ะ ไปถึงปุ๊บ ก็เจอปั๊บ แม่ค้าถือถาดมังคุดคั
- แกล้งดิน พระอัจฉริยภาพด้านดิน-น้ำ แก้จนยั่งยืน ที่ “ศูนย์ฯ พิกุลทอง” จ.นราธิวาสอย่างที่อำเภอตากใบ ก็มีปัญหานี้ ชาวบ้านทำได้แค่ปลูกพืชได้เป็นหย่อมๆ ผลผลิตไม่ดี ปลูกข้าวได้ไร่ละไม่ถึง 10 ถัง ก็ได้นำความรู้เรื่องแกล้งดินไปปรับปรุงพัฒนาพื้นที่จนเขียวขจีไปทั้งพื้นที่ ![ คำอ
- ด้วยพระบารมี ชุมพรวันนี้สุขร่มเย็น น้ำไม่ท่วม !!!ปลายเดือนตุลาคม 2540 พายุไต้ฝุ่น “ลินดา” ได้ก่อตัวขึ้นและเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย และคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่บริเวณจังหวัดชุมพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้จังหวัดชุมพรเร่งขุดค
- จากความวิปโยค คืนสู่ความสมบูรณ์ ด้วยพระมหากรุณธิคุณ “อ่างเก็บน้ำกะทูน” สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้อ่างเก็บน้ำกะทูนเป็นอีกหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สามารถพลิกวิกฤตจากน้ำท่วมใหญ่ในอดีตให้เป็นโอกาส ช่วยชะลอน้ำ สร้างชีวิตใหม่ให้กับพสกนิกร ![ คำอธิบายภาพ : pic5803
- หาดใหญ่พ้นภัยด้วยน้ำพระทัยจากในหลวง โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ตามแนวพระราชดำริ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาที่หาดใหญ่ ที่น้ำท่วมอย่างมากมายเช่นนี้ ท่านผู้ที่อยู่ในท้องที่ก็ได้เห็นด้วยตาของตนเอง แต่ว่าไม่ทันรู้ว่ามันมาอย่างไร ถ้าถามผู้อยู่ที่หาดใหญ่เองทั้งประชาชน ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและพลเรือน ว่าน้ำน
- พระราชปณิธานที่จะให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส สามารถพูดภาษาไทยได้การศึกษาที่นี่สำคัญมาก ให้พยายามจัดให้ดี ให้พลเมืองสามารถพูดภาษาไทยได้ แม้จะพูดได้ไม่มากนักเพียงแต่พอรู้เรื่องกันก็ยังดี เท่าที่ผ่านมาคราวนี้มีผู้ไม่รู้ภาษาไทย ต้องใช้ล่ามแปลควรให้พูดเข้าใจกันได้ เ
- รัชกาลที่ 9 พระราชกรณียกิจด้านแร่ในภาคใต้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งเลียบฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ตั้งแต่ระนองถึงภูเก็ต ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเห็นภูมิประเทศอันเป็นแหล่งกำเนิดแร่ดีบุก ทั้งภูเขาและลานแร่ พระองค์ทรงเข้
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ “เสด็จเมืองระนอง ๒๕๐๒”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ “เสด็จเมืองระนอง ๒๕๐๒” ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๖ – ๒๖ มีนาคม ปี พุทธศักราช ๒๕๐๒ ![ คำอธ
- พ่อของแผ่นดินกับพสกนิกรชาวไทยมุสลิม" อิสลามิกชนมีพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน อันประกอบพร้อมด้วยบทบัญญัติทางศีลธรรม จริยธรรม นิติธรรม เป็นแม่บทศักดิ์สิทธิ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติและการดำเนินชีวิต ส่วนใหญ่จึงมีชีวิตที่เจริญมั่นคง มีความฉลาด
- สงขลาใต้ร่มพระบารมีปี ๒๕๐๒ เสด็จสงขลา ครั้งแรก เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวสงขลาเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรในภาคใต้ครั้งแรก