4 ข้อเท็จจริง ของพลังงานจากถ่านหิน

by sator4u_team @19 ธ.ค. 56 15:03 ( IP : 180...135 ) | Tags : คลังสมอง-น่ารู้-สัพเพเหระ
photo  , 875x582 pixel , 72,062 bytes.

ถ่านหินถือเป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ในทศวรรษที่ผ่านมา พลังงานถ่านหินถือเป็นพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของโลก โดยการผลักดันของบริษัทข้ามชาติ บริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ นักลงทุนทางพลังงานรายใหญ่ และหลายรัฐบาลทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว โดยให้เหตุผลว่า ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานที่ราคาถูกที่สุด ดังนั้นจึงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญตามกลยุทธ์ที่ว่าพลังงานสำหรับทุกคน

อย่างไรก็ดี ชุมชนทั่วโลกต่างก็ต้องต่อสู้กับโครงการพัฒนาแหล่งพลังงานถ่านหินร่วมทศวรรษเช่นกัน เพราะพวกเขาเหล่านั้นทราบถึงผลกระทบที่รุนแรงจากถ่านหิน ในขณะที่พวกเขาพยายามผลักดันด้านมืดของถ่านหินให้เป็นที่รับรู้ ก็ต้องมาพบกับแรงเสียดทานจากฝ่ายอุตสาหกรรมที่สร้างความเชื่อว่าพลังงานถ่านหินเป็นพลังงาน ‘สะอาด’

  1. พลังงานถ่านหินไม่ใช่พลังงานราคาถูก เพราะถ่านหินจะสร้างต้นทุนราคาแพงต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การทำเหมืองถ่านหิน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นผิวเพื่อทำเหมืองหรือการระเบิดภูเขา เป็นการเร่งการทำลายป่าไม้อย่างรุนแรง รวมทั้งโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องเวนคืนที่ดิน และยังส่งผลให้เกิดการพังทลายของชั้นดินรวมทั้งภาวะดินถล่ม การขาดแคลนน้ำ และมลภาวะต่างๆ

ฝุ่นผงที่เกิดจากการทำเหมืองแร่สามารถแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งชุมชน ก่อให้เกิดมลภาวะในแหล่งน้ำ เป็นพิษต่อทั้งมนุษย์และสัตว์น้ำ นอกจากนี้ หากมีคนไปสัมผัสหรือสูดหายใจเอาเขม่าถ่านหินเข้าไป ก็อาจสะสมเป็นโรคทางเดินหายใจ เช่นภูมิแพ้ โรคหืดและหลอดลมอักเสบ สารพิษจากถ่านหินยังก่อให้เกิดฝนกรดอีกด้วย

การทำเหมืองใต้ดินก็เป็นการทำลายล้างไม่ต่างกัน เพราะน้ำที่ไหลผ่านเหมืองแร่ไม่ว่าจะดำเนินการอยู่หรือถูกทิ้งร้าง จะทำให้เกิดการปนเปื้อนทั้งทางพื้นดินและแหล่งน้ำ นอกจากนี้ การเผาถ่านหิน การทำเหมืองถ่านหินใต้ดิน และเหมืองแร่ที่ถูกทิ้งร้าง ยังเป็นตัวการในการปล่อยก๊าซมีเทน ที่แม้จะมีช่วงอายุในชั้นบรรยากาศสั้นกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีผลกระทบรุนแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 23 เท่า

ผลกระทบทางสุขภาพจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและการทำเหมืองถ่านหินก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน จากการศึกษาพบว่าในประเทศอินเดีย มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องจากมลภาวะจากถ่านหินระหว่าง 80,000 – 115,000 ราย มากกว่า 20 ล้านรายต้องทนทรมานกับโรคหืดเรื้อรังในปี 2011 – 2012

การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีค่ารักษาพยาบาลจากผลกระทบของถ่านหินกว่าปีละ 2 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ นักวิชาการชาวจีนยังค้นพบว่า การใช้ถ่านหินในตอนเหนือของประเทศจีนทำให้อายุเฉลี่ยลดลงถึง 5.5 ปี

  1. ถ่านหินจะเร่งให้เกิดภาวะโลกร้อน ผลกระทบด้านลบจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นราว 0.8 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ยุคก่อนอุตสาหกรรมกำลังเริ่มแสดงผล จากรายงานของ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ชี้ว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ และเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงนั้น เราจะต้องหยุดโครงการที่ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต องค์การพลังงานสากล (International Energy Agency)สรุปว่า เรามีเวลา 5 ปีในการปฏิรูปพลังงาน ก่อนที่จะสายเกินแก้ไข โดยการหยุดการใช้พลังงานฟอสซิลและเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานหมุนเวียนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

พลังงานถ่านหิน ถือเป็นหนึ่งในพลังงานฟอสซิลที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการเผาไหม้ถ่านหินถือเป็นต้นตอที่ใหญ่ที่สุดของก๊าซเรือนกระจก ด้วยราคาที่ถูก ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ยังเลือกที่จะใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ

เราไม่สามารถเอาชนะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ หากเรายังไม่สามารถต่อสู้กับพลังงานถ่านหิน

3.พลังงานถ่านหินสะอาดนั้น ไม่มีจริง ความเชื่อเรื่อง ‘พลังงานถ่านหินสะอาด’ นั้นเป็นภาพลวงตาที่อุตสาหกรรมพยายามสร้างขึ้น

ตัวอย่างหนึ่งของ ‘พลังงานถ่านหินสะอาด’ ที่ใช้ในประเทศพัฒนาแล้ว โดยระบบ Circulating Fluidized bed combustion เทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบ ราคาแพง เพื่อป้อนสังคมที่กระหายพลังงาน ในขณะที่ซุกซ่อนความเสี่ยงใหม่ไว้ โดยฝังกลบคาร์บอนจำนวนมหาศาลไว้ใต้ดิน ซึ่งเป็นการรบกวนระบบตามธรรมชาติอย่างรุนแรง

ทางออกที่ว่า ‘พลังงานถ่านหินสะอาด’ นอกจากจะเป็นคำตอบที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ไม่ได้ช่วยลดความรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเร่งกระบวนการทำร้ายชุมชน จากการทำเหมืองถ่านหิน การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้า

  1. พลังงานถ่านหิน ไม่ใช่พลังงานเพื่อทุกคน การบริโภคพลังงานของโลกนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่มีประชากรว่า 1.3 ล้านล้านคนที่ยังไม่เข้าถึงพลังงานไฟฟ้า หรือมีใช้แต่ไม่เพียงพอ

เราได้เฝ้ามองพลังงานถ่านหินที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่เห็นว่านี่จะเป็นการเพิ่มการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าในชุมชนที่ยากจน รวมถึงไม่เป็นการลดความยากและเพิ่มคุณภาพชีวิตแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม ความไม่เท่าเทียมกันในการใช้พลังงานกลับเพิ่มสูงขึ้น ระหว่างผู้มีเงินไม่กี่กลุ่มและคนส่วนใหญ่ในสังคม

ในขณะที่ระบบผลิตพลังงานยังคงป้อนไฟฟ้าเข้าสู่เศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างแข็งขันเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มชนชั้นนำและนายทุนใหญ่ แต่กลับไม่สามารถมอบการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าให้กับทุกภาคส่วนของสังคม

ข้อมูลจากเอกสารเผยแพร่โดยกลุ่ม Reclaim Power ภาพ http://www.climateshifts.org/wp-content/uploads/2010/12/coal_hands.jpg

Relate topics

Post new comment

« 4052
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง