ย้อนรอยเปิดตำนาน ลานหอยเสียบกว่า10ปี กับการต่อสู้ภาคประชาชน ในนามกลุ่มคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์

photo  , 720x960 pixel , 156,164 bytes.

ย้อนรอยเปิดตำนาน ลานหอยเสียบกว่า10ปี กับการต่อสู้ภาคประชาชน ในนามกลุ่มคัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์ โดยนางสุไรด๊ะ โต๊ะหลี (ยีด๊ะ)

เมื่อวันที่10สิงหา ที่ผ่านมา ณ มหาวิทยาลัยชาวบ้านลานหอยเสียบ ยีด๊ะ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจากหลายสำนักข่าวที่มาจากส่วนกลาง ซึ่งลงมาทำข่าวในงานอะโบ๊ยหมะเลจะนะหรอยจ้าน2 ทั้งนี้ก็ได้มาเรียนรู้ถึงกระบวนการ การต่อสู้ภาคประชาชนของกลุ่มคัดค้านท่อก๊าซไทย-มาเลย์ ซึ่งมียีด๊ะ เป็นตัวแทนของกลุ่มในการให้สัมภาษณ์

กว่า10ปีแล้วที่ยังคงยืนหยัดและต่อสู้มาโดยตลอด เริ่มต้นจากการรับรู้เรื่องของโครงการ จึงได้ไปศึกษาดูงานที่มาบตาพุด จ.ระยอง จากนั้นก็ได้มีเวทีประชาพิจารณ์2ครั้ง ซึ่งทั้ง2ครั้งถือว่าเป็นประชาพิจารณ์ที่ตอแหล เพราะใช้เวลาในการทำประชาพิจารณ์เร็วมาก ไม่เกิน20นาที อีกอย่างบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางต่างๆนานา อย่างลวดหนาม เสาคอนกรีตขนาดใหญ่รวมถึงแท่งแบริเออร์ เพื่อปิดกั้นคนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการเข้าร่วมรับฟัง

จนมาถึงเมื่อปี45 (20ธันวา) ในช่วงรัฐบาลอดีตนายกทักษิณ ได้ลงมาประชุมสัญจรที่ อ.หาดใหญ่ ณ โรงแรมเจบี ชาวบ้านกว่า1000คน ได้รวมตัวกันเพื่อไปยื่นหนังสือ ให้ ครม. ทบทวนโครงการที่จะเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังตำรวจใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ เข้าสลายการชุมนุม ทั้งๆที่ชาวบ้านกำลังทานข้าว บ้างก็กำลังละหมาด จนเป็นเหตุทำให้เกิดการปะทะกัน และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้กลับมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ คือลานหอยเสียบ  และยิ่งไปกว่านั้นคือ ชาวบ้านส่วนหนึ่งถูกตั้งข้อหา รวมทั้งหมด8ข้อหา พร้อมด้วยหมายจับตามมา จนทำให้ชาวบ้านบางส่วนต้องยกครอบครัวหนีออกมาจากบ้านเพื่อความปลอดภัย และได้มาอยู่กันที่ลานหอยเสียบ จากนั้นชาวบ้านทั้งหมดที่มีหมายจับก็ได้เข้ามอบตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 18เดือนกับการอยู่ที่ลานหอยเสียบของยีด๊ะ ได้เรียนรู้อะไรมากมายจาก มหาวิทยาลัยชาวบ้านลานหอยเสียบแห่งนี้

ถึงแม้จะถูกตามล่า มีหมายจับ ถูกติดตาม ยีด๊ะก็ไม่เคยท้อและหยุดที่จะต่อสู้กับโครงการและความไม่ชอบธรรม  กว่า5ปีที่ชาวบ้านต้องขึ้นศาล ในฐานะตกเป็นจำเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ และที่สำคัญคือ โจทย์ที่ยื่นฟ้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมองแล้วยากที่จะต่อสู้ด้วย แต่ด้วยความบริสุทธิ์และเชื่อในความยุติธรรมของชาวบ้าน จึงเป็นแรงศรัทธาในการที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อความถูกต้องและที่สำคัญเพื่อบ้านเกิดของตัวเอง

ปัจจุบันศาลมีคำพิพากษาแล้ว คือ ยกฟ้อง ซึ่งในทางกลับกัน ตอนนี้จากโจทย์ก็กลายมาเป็นจำเลย หลังจากที่ชาวบ้านได้ส่งตัวแทนฟ้องกลับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหาคนมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังชาวบ้านต้องทนทุกข์มากว่า10ปี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการนัดสืบพยานของจำเลย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ณ ศาลยุติธรรม จ.สงขลา

สุดท้ายถึงแม้ว่าการต่อสู้ของชาวบ้านจะยาวนานสักแค่ไหน จะต่อสู้กับใคร คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากชาวบ้านร่วมมือกันและยืนหยัดในความถูกต้อง จะ10ปี 20ปี ก็คงไม่สำคัญ เพื่อลูกหลาน วิถีชีวิต และบ้านเกิดของตัวเราเอง เมื่อถูกกลายเป็นผิด ภารกิจคือการต่อสู้

ที่มา fb @ สมาร์ท นิยมเดชา นักข่าวพลเมืองภาคใต้ (สื่อจะนะนิวส์)

Relate topics

Post new comment

« 1335
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง